ล้มโต๊ะ รายงานส่งตรงจากประเทศอิตาลีหลังจากจบเกม ฟุตบอล บิ๊กแมตช์ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือตัว ทีเด็ด ของ ม้าลาย ยูเวนตุส ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวโดยบอกว่า เขาไม่ได้รู้สึกว่าต้องไปโอดครวญหรือนอยด์อะไรมากมายกับความพ่ายแพ้ต่อ ลาซิโอ้ ในศึก ซูเปอร์คัพ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้
ในเกม ฟุตบอล ที่สนาม คิง ซาอุด ยูนิเวอร์ซิตี้ เจ้าม้าลาย ยูเวนตุส พ่ายแพ้แบบหมดรูปให้กับ ลาซิโอ้ ไปถึง 3-1 โดยที่พวกเขาโดนกดไปก่อนจาก หลุยส์ อัลเบร์โต้ ก่อน เปาโล ดีบาล่า จะตีเสมอก่อนจบครึ่งแรก
ล้มโต๊ะ รายงานว่าในช่วงครึ่งเวลาหลังทีม อินทรีฟ้าขาว มากดเพิ่มไปอีกสองประตูโดยได้จากอีกหนึ่งตัว ทีเด็ด อย่าง เซนาด ลูลิช และ ดานิโล่ คาตัลดี้ ส่งผลให้ทีมแกร่งจากกรุงโรมคว้าแชมป์ไปครองในที่สุด
ซึ่งนี่นับเป็นการย้ำแค้นของ อินทรีฟ้าขาว ต่อทีม ม้าลาย อีกครั้งต่อเนื่องจากที่ต้นเดือนที่ผ่านมาที่ ลาซิโอ้ เพิ่งเชือด ยูเวนตุส แบบนิ่มๆในศึกฟุตบอล เซเรีย อา ด้วยสกอร์ 3-1 เช่นเดียวกันกับในนัดนี้
ซึ่งภายหลังจากาจบเกม เมาริซิโอ ซาร์รี่ ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวเอาไว้ว่า
“ผลการแข่งขันในครั้งนี้มันเป็นความผิดหวังนะ แต่ว่าผมจะไม่ไปคร่ำครวญกับมันนักหรอก”
“การทำแบบนั้นไปมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร มันไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ ผมไม่คิดว่าลูกทีมของผม จะมีผลกระทบอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างสองเกมนี้”
“ลาซิโอ้ กำลังอยู่ในช่วงที่ฟอร์มเข้าฝัก ทุกอย่างเข้าทางพวกเขา และอะไรๆต่างมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในช่วง 2-3 เดือน ถ้าพวกเขายังเล่นด้วยฟอร์มแบบนี้ต่อไป ผมก็สงสัยเหมือนกันว่าจะมีใครทำอะไรพวกเขาได้แค่ไหน”
“อย่าลืมนะว่าฤดูกาลมันยังเหลืออีก 5 เดือน และมีเกมให้เล่นอีกหลายนัด” ซาร์รี่ กล่าว
That’s all folks! 🔚@OfficialSSLazio is the 2019/2020 #CocaColaSupercup champion! 🏆#JuveLazio #WeAreCalcio pic.twitter.com/mBRjv1DOwK
— Lega Serie A (@SerieA_EN) December 22, 2019
นอกจากนี้ ล้มโต๊ะ ยังกล่าวว่ามีอักหนึ่งประเด็นสำคัญที่น่าสนใจ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์พันล้านตัว ทีเด็ด ของ ยูเวนตุส ต้องพบกับความพ่ายแพ้ในเกมนัดชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ตั้งแต่ปี 2013 หลังจากพลาดท่าโดน ลาซิโอ้ กดอัลติแพ้ไป 3-1 ในศึก อิตาลี ซูเปอร์คัพ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เกมที่สนามคิง ซาอุด ยูนิเวอร์ซิตี้ “ม้าลาย” พ่ายแพ้ให้กับลาซิโอ้ 3-1 โดยโดนไปก่อนจาก หลุยส์ อัลเบร์โต้ ก่อน เปาโล ดีบาล่า จะตีเสมอก่อนจบครึ่งแรก
ครึ่งหลังทีม “อินทรีฟ้าขาว” มากดเพิ่มอีกสองประตูจาก เซนาด ลูลิช และ ดานิโล่ คาตัลดี้ คว้าแชมป์ไปครอง
ความพ่ายแพ้ในเกมนี้ทำให้ โรนัลโด้ ต้องเสียสถิติ ฟุตบอล ส่วนตัวของตัวเองในการพ่ายแพ้ในเกมนัดชิงชนะเลิศมา 12 นัดติด นับตั้งแต่ปี 2013 เลยทีเดียว โดยสถิตินี้นับรวมทั้งในระดับทีมชาติและสโมสรด้วย
ครั้งสุดท้ายที่สตาร์ชาวโปรตุเกสแพ้ในเกมชิงดำคือโกปา เดล เรย์ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2013 ที่ เรอัล มาดริด พ่ายต่อ แอตเลติโก้ มาดริด ด้วยสกอร์ 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
และอีกหนึ่งไฮไลท์ในเกมนัดนี้ก็คือ ในช่วงพิธีการมอบเหรียญรางวัลหลังจบเกม แข้งวัย 34 ปี จัดการถอดเหรียญรองแชมป์ทันทีหลังจากได้รับคล้องที่คอได้แค่ไม่กี่วินาที ซึ่งเป็นอีกสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเขาไม่พอใจกับแค่ตำแหน่งรองแชมป์