ซับซ้อนกว่าที่คิด! สรุปเงื่อนไข พรีเมียร์ลีก กี่ทีม ได้โควต้าลุยศึกยุโรป ฤดูกาลหน้า 2025-26

สัปดาห์ที่ผ่านมา แฟนบอลพรีเมียร์ลีกคงได้เห็นถึงความยอดเยี่ยมและความน่าตื่นเต้นของฟุตบอลยุโรปกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น แอสตัน วิลล่า ที่สู้กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้อย่างสูสี, อาร์เซนอล ที่โชว์ฟอร์มสุดยอดอีกครั้งในการเจอกับ เรอัล มาดริด, ท็อตแน่ม ที่บุกไปคว้าชัยถึงแฟรงค์เฟิร์ตในยูโรปาลีก, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สร้างช่วงต่อเวลาพิเศษอันน่าจดจำที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษเพื่อผ่านลียงไปได้ในรายการเดียวกัน หรือแม้แต่ เชลซี ที่ผ่านเข้ารอบในคอนเฟอเรนซ์ลีก

เมื่อเข้าสู่ช่วงกลางเดือนเมษายน ฟุตบอลสโมสรยุโรปก็กำลังเข้มข้นถึงขีดสุด คำถามที่น่าสนใจคือ ฤดูกาลหน้า จะมีทีมจากพรีเมียร์ลีกได้สิทธิ์เข้าแข่งขันในฟุตบอลยุโรปทั้ง 3 รายการ (แชมเปียนส์ลีก, ยูโรปาลีก, คอนเฟอเรนซ์ลีก) ทั้งหมดกี่ทีม?

นี่ไม่ใช่คำถามที่ตอบได้ง่ายๆ เพราะมีปัจจัยและเงื่อนไขต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย แต่เราจะพยายามหาคำตอบกันครับ

เรื่องโควต้าแชมเปียนส์ลีกของพรีเมียร์ลีกนี่เคยเป็นเรื่องง่ายๆ ใช่ไหมครับ? เพราะวลี “จบในท็อปโฟร์” กลายเป็นส่วนหนึ่งของศัพท์ฟุตบอลอังกฤษไปแล้ว แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้วครับ และอาจจะซับซ้อนกว่าที่คุณคิด

เริ่มแรกเลย พรีเมียร์ลีกได้โควต้าพิเศษเพิ่มมา 1 ที่ จากการเป็น 1 ใน 2 ลีกที่มีผลงานค่าสัมประสิทธิ์ยอดเยี่ยมที่สุดในยุโรปประจำฤดูกาล 2024-25 (เรียกว่า European Performance Spots – EPS) นั่นทำให้ตอนนี้พรีเมียร์ลีกมีโควต้าแชมเปียนส์ลีก อย่างน้อย 5 ทีม (คือทีมอันดับ 1-5 ในลีก) ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมการลุ้นอันดับท็อปไฟว์ถึงเข้มข้นมาก

แต่มันยังไม่จบแค่นั้นครับ! ทีมที่คว้าแชมป์ยูโรปาลีกก็จะได้สิทธิ์ไปเล่นแชมเปียนส์ลีกในฤดูกาลถัดไปด้วย และตอนนี้มีทีมจากพรีเมียร์ลีกถึง 2 ทีม (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) อยู่ในรอบรองชนะเลิศ ซึ่งทั้งสองทีมนี้ดูแล้วไม่น่าจะจบฤดูกาลใน 5 อันดับแรกของตารางลีก

นั่นหมายความว่า มีความเป็นไปได้ที่เราจะได้เห็นนัดชิงยูโรปาลีกกลายเป็นเหมือนเกมเพลย์ออฟชิงตั๋วแชมเปียนส์ลีกระหว่างสเปอร์สกับแมนฯ ยูไนเต็ด (หากทั้งคู่ผ่านเข้ารอบชิงได้) ถ้าเป็นเช่นนั้น และทีมแชมป์ยูโรปาไม่ได้จบในท็อปไฟว์ของลีก ก็จะทำให้พรีเมียร์ลีกมีทีมในแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลหน้าถึง 6 ทีม (ท็อปไฟว์ + แชมป์ยูโรปาลีก)

เดี๋ยวก่อน… มันอาจจะไปได้ถึง 7 ทีม เลยนะครับ!

ใช่ครับ ฟังไม่ผิด เพราะคุณต้องไม่ลืมว่าโควต้า EPS นั้นแยกต่างหากจากโควต้าท็อปโฟร์เดิม สมมติว่า (ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก แต่ลองคิดดู) อาร์เซนอล เกิดฟอร์มในลีกหลุดจนจบแค่อันดับ 5 แต่พวกเขากลับไปคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีกได้สำเร็จ ในกรณีนี้ โควต้า EPS ที่เดิมทีควรจะเป็นของอันดับ 5 จะถูกเลื่อนไปให้กับทีมอันดับ 6 แทน

ทีนี้ หากสถานการณ์เป็นไปตามนี้ (อาร์เซนอลจบที่ 5 แต่ได้แชมป์ CL + ทีมอันดับ 6 ได้โควต้า EPS) แล้วยังมีทีมจากพรีเมียร์ลีกอีกทีม (เช่น สเปอร์ส หรือ แมนฯ ยูไนเต็ด) คว้าแชมป์ยูโรปาลีกได้อีก ก็จะทำให้ในฤดูกาล 2024-25 อังกฤษจะมีตัวแทนในแชมเปียนส์ลีกมากถึง 7 ทีม เลยทีเดียวครับ! (ประกอบด้วย: อันดับ 1-4 + อาร์เซนอล (แชมป์เก่า/อันดับ 5) + ทีมอันดับ 6 (จากโควต้า EPS) + แชมป์ยูโรปาลีก)

สรุปคือ โควต้าแชมเปียนส์ลีกของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้าอาจจะมีได้ตั้งแต่ 5, 6 หรือมากที่สุดถึง 7 ทีม ขึ้นอยู่กับผลงานของทีมอังกฤษในลีกและในฟุตบอลยุโรปถ้วยต่างๆ ครับ

โอเคครับ มาต่อกันเรื่องโควต้าฟุตบอลยุโรปถ้วยอื่นๆ ของทีมจากพรีเมียร์ลีกกันนะครับ

เรื่องที่ว่าอาจมีทีมจากพรีเมียร์ลีกถึง 7 ทีมในแชมเปียนส์ลีก (คิดเป็น 19.4% ของทีมทั้งหมด) นั้น เป็นไปได้ในทางทฤษฎี แต่ในทางปฏิบัติ โอกาสเกิดขึ้นจริงน้อยมาก ครับ

แล้วโควต้า ยูโรปาลีก และ คอนเฟอเรนซ์ลีก ล่ะ?

ตามปกติแล้ว ฟุตบอลอังกฤษจะได้โควต้าสำหรับฟุตบอลยุโรปอีก 3 ที่ แบ่งเป็น:

  • ยูโรปาลีก 2 ทีม:
    1. แชมป์ เอฟเอ คัพ
    2. ทีมที่มีอันดับสูงสุดในพรีเมียร์ลีก ที่ไม่ได้ไปแชมเปียนส์ลีก (ปกติคืออันดับ 5 หากโควต้า CL มีแค่ 4 ทีม หรืออันดับ 6 หากโควต้า CL มี 5 ทีม)
  • ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ลีก 1 ทีม:
    1. แชมป์ คาราบาว คัพ

ถ้าดูตามนี้ ก็อาจจะคิดว่ารวมกับโควต้าแชมเปียนส์ลีกแล้ว พรีเมียร์ลีกอาจมีทีมไปเล่นฟุตบอลยุโรปได้ถึง 9 หรือ 10 ทีมเลยทีเดียว (5-7 ทีมใน CL + 3 ทีมใน EL/ECL)

แต่เดี๋ยวก่อนครับ! มัน ซับซ้อนกว่านั้น อีกตามเคย เพราะ:

  1. กรณีแชมป์บอลถ้วยได้โควต้าที่ดีกว่าจากอันดับในลีก:

    • คาราบาว คัพ: นิวคาสเซิล คว้าแชมป์ไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าพวกเขามีโอกาสสูงที่จะจบอันดับในลีกได้ไปแชมเปียนส์ลีกอยู่แล้ว ในกรณีนี้ โควต้าคอนเฟอเรนซ์ลีกของแชมป์คาราบาว คัพ จะถูก โอนไปให้ทีมที่มีอันดับสูงสุดในลีกถัดไป ที่ยังไม่ได้โควต้าไปบอลยุโรป
    • เอฟเอ คัพ: สถานการณ์คล้ายกัน ทีมที่เข้ารอบรองฯ อย่าง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ แอสตัน วิลล่า ต่างก็มีลุ้นอันดับไปแชมเปียนส์ลีก หากทีมใดทีมหนึ่งในสามทีมนี้คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ โควต้ายูโรปาลีกของแชมป์เอฟเอ คัพ ก็จะถูก โอนไปให้ทีมที่มีอันดับสูงสุดในลีกถัดไป ที่ยังไม่ได้โควต้าเช่นกัน (ส่วน คริสตัล พาเลซ อีกทีมในรอบรองฯ ควรจะมุ่งมั่นคว้าแชมป์เพื่อการันตีโควต้ายูโรปาลีกไปเลย)
  2. กรณีแชมป์คอนเฟอเรนซ์ลีก (ECL):

    • ทีมที่คว้าแชมป์คอนเฟอเรนซ์ลีก จะได้สิทธิ์ไปเล่น ยูโรปาลีก ในฤดูกาลถัดไปโดยอัตโนมัติ
    • แต่! ถ้าทีมแชมป์คอนเฟอเรนซ์ลีก (สมมติว่าเป็น เชลซี) จบฤดูกาลด้วยอันดับในลีกที่ได้ไป แชมเปียนส์ลีก อยู่แล้ว พวกเขาจะไปเล่นแชมเปียนส์ลีกตามสิทธิ์จากอันดับในลีก และโควต้ายูโรปาลีกที่ได้จากการเป็นแชมป์คอนเฟอเรนซ์ลีกนั้นจะ ไม่ถูกนำมาใช้ หรือไม่ถูกโอนให้ทีมอื่นในพรีเมียร์ลีก (โควต้านี้อาจจะหายไป หรือตกไปอยู่กับลีกอื่นตามกฎของยูฟ่า)
    • แต่ถ้า เชลซี คว้าแชมป์คอนเฟอเรนซ์ลีก แต่จบอันดับในลีกนอกพื้นที่แชมเปียนส์ลีก (เช่น อันดับ 6 หรือต่ำกว่า) พวกเขาก็จะได้ไปเล่น ยูโรปาลีก ตามสิทธิ์ของแชมป์คอนเฟอเรนซ์ลีกครับ

สรุปง่ายๆ คือ: โควต้าบอลถ้วย (เอฟเอ คัพ, คาราบาว คัพ) สามารถ “เลื่อน” ลงไปให้ทีมอันดับถัดไปในลีกได้ หากแชมป์บอลถ้วยได้โควต้าที่ดีกว่า (ปกติคือ CL) จากอันดับในลีกอยู่แล้ว แต่โควต้ายูโรปาลีกจากการเป็นแชมป์คอนเฟอเรนซ์ลีก จะไม่ถูกโอนให้ทีมอื่นในลีกเดียวกัน หากแชมป์ได้ไป CL อยู่แล้ว

(ปล. มีสถานการณ์ที่เหลือเชื่อมากๆ ที่อาจทำให้มีทีมอังกฤษถึง 11 ทีมในยุโรป แต่เงื่อนไขซับซ้อนและโอกาสเกิดน้อยสุดๆ ครับ)

แน่นอนครับ เรามาลองดูสถานการณ์สมมติเพื่อทำความเข้าใจเรื่องโควต้าฟุตบอลยุโรปให้ชัดเจนยิ่งขึ้นกันนะครับ

สมมติว่าเกิดเหตุการณ์ต่อไปนี้:

  • อันดับในพรีเมียร์ลีกเมื่อจบฤดูกาล เป็นไปตามที่ Opta คาดการณ์ไว้ (ตามกราฟิกที่คุณอาจเคยเห็นก่อนหน้านี้)
  • แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ
  • แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ ยูโรปาลีก
  • เชลซี คว้าแชมป์ ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ลีก

ในสถานการณ์สมมตินี้ โควต้าฟุตบอลยุโรปของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้าจะเป็นดังนี้:

  • แชมเปียนส์ลีก (6 ทีม):
    • ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล, นิวคาสเซิล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อันดับ 1-4)
    • น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (อันดับ 5 – ได้โควต้า EPS)
    • แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (แชมป์ยูโรปาลีก)
  • ยูโรปาลีก (3 ทีม):
    • แอสตัน วิลล่า (อันดับ 6 – ได้โควต้าจากแชมป์เอฟเอ คัพ เนื่องจากแมนฯ ซิตี้ ได้ไป CL จากอันดับในลีก)
    • เชลซี (แชมป์คอนเฟอเรนซ์ลีก)
    • บอร์นมัธ (อันดับ 8 – ได้โควต้าลีกอันดับถัดไป)

เดี๋ยวนะ… แล้วโควต้าคอนเฟอเรนซ์ลีกล่ะ หายไปไหน?

ตรงนี้แหละครับที่เรื่องมันซับซ้อนขึ้นไปอีก! ตามกฎแล้ว หากทีมที่คว้าแชมป์ฟุตบอลยุโรป (ในที่นี้คือ เชลซี แชมป์คอนเฟอเรนซ์ลีก) จบฤดูกาลด้วยอันดับในลีกที่ได้สิทธิ์ไปเล่นฟุตบอลยุโรปอยู่แล้ว (ในกรณีสมมตินี้ Opta คาดว่าเชลซีจะจบอันดับ 7 ซึ่งเป็นอันดับที่จะได้โควต้าคอนเฟอเรนซ์ลีก หากโควต้าคาราบาวคัพเลื่อนลงมา) พรีเมียร์ลีกจะต้อง “สละ” โควต้าคอนเฟอเรนซ์ลีกของตัวเองไป

ดังนั้น ในสถานการณ์สมมตินี้:

  • วิลล่า (อันดับ 6) ได้ไปยูโรปาลีก (จากสิทธิ์แชมป์ FA Cup ที่โอนมา)
  • เชลซี (อันดับ 7) ได้ไปยูโรปาลีก ในฐานะแชมป์คอนเฟอเรนซ์ลีก
  • โควต้าลีกอันดับถัดไป (ซึ่งปกติควรจะเป็นคอนเฟอเรนซ์ลีกสำหรับอันดับ 7 แต่โควต้านั้นถูกสละไปแล้ว) จะถูก “อัปเกรด” หรือเลื่อนให้ทีมอันดับ 8 คือ บอร์นมัธ ได้ไปยูโรปาลีกแทน
  • ทำให้ไม่มีทีมจากพรีเมียร์ลีกได้โควต้าคอนเฟอเรนซ์ลีกในกรณีนี้

แต่ถ้า… เชลซี จบอันดับ 8 หรือต่ำกว่าล่ะ?

สถานการณ์จะเปลี่ยนไปครับ:

  • หากเชลซีคว้าแชมป์คอนเฟอเรนซ์ลีก แต่จบอันดับ 8 หรือต่ำกว่า (คือไม่ได้โควต้าบอลยุโรปจากอันดับในลีก)
  • โควต้ายูโรปาลีกจากอันดับในลีกจะตกเป็นของ อันดับ 6 และ อันดับ 7 (ได้สิทธิ์จาก FA Cup และ Carabao Cup ที่โอนมาตามลำดับ)
  • เชลซี จะได้ไปยูโรปาลีกในฐานะแชมป์คอนเฟอเรนซ์ลีก
  • และในกรณีนี้ โควต้าคอนเฟอเรนซ์ลีกของพรีเมียร์ลีก จะไม่หายไป แต่จะถูกมอบให้กับทีมอันดับถัดไปที่ยังไม่ได้โควต้า ซึ่งก็คือ อันดับ 9 (ตามที่ Opta คาดการณ์คือ ฟูแล่ม)

สรุปคือ: แฟนบอลฟูแล่มอาจจะต้องแอบหวังให้ฟอร์มในลีกของเชลซีไม่ดีขึ้น (จบอันดับ 8 หรือต่ำกว่า) แต่ยังคว้าแชมป์คอนเฟอเรนซ์ลีกได้ เพื่อที่ฟูแล่ม (อันดับ 9) จะได้สิทธิ์ไปเล่นคอนเฟอเรนซ์ลีกในฤดูกาลหน้านั่นเองครับ! เรื่องนี้มันน่าลุ้นกว่าที่คิดไว้เยอะเลยใช่ไหมล่ะครับ