ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวลือเกี่ยวกับแนวรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มหนาหูขึ้นเรื่อยๆ โดยมีรายงานว่าสโมสรต้องการเสริมความแข็งแกร่งในแดนหน้า
และหนึ่งในเป้าหมายหลักก็คือ วิคเตอร์ โอซิมเฮน ดาวยิงตัวเก่งของ นาโปลี ซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการของ รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีมคนใหม่ อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดจากอิตาลีเผยว่า ยูไนเต็ดอาจต้องยอม “สังเวย” กองหน้าคนใดคนหนึ่งในทีมเพื่อให้ดีลนี้เกิดขึ้น
เว็บไซต์ กัลโช่แมร์กาโต้ รายงานว่า ปีศาจแดง อาจต้องปล่อย ราสมุส ฮอยลุนด์ ซึ่งฟอร์มดรอปลงไปในฤดูกาลที่สอง หรือไม่ก็ โยชัว เซิร์กซี ที่ยังไม่สามารถปรับตัวกับทีมได้ นับตั้งแต่ย้ายมาจาก โบโลญญ่า เมื่อช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว
โอซิมเฮน คือกองหน้าที่ ยูไนเต็ด ต้องมี – แต่ใครควรจะถูกปล่อยออกไป?
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการคว้าตัว โอซิมเฮน จะเป็นดีลที่สำคัญสำหรับ ยูไนเต็ด เพราะทีมขาดศูนย์หน้าที่มีศักยภาพในการทำประตูมาหลายปีแล้ว อย่างไรก็ตาม คำถามที่สำคัญคือ หากต้องเสีย ฮอยลุนด์ หรือ เซิร์กซี ไป ใครจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่าที่จะถูกปล่อยตัว และพวกเขาจะกลายเป็นนักเตะที่ยูไนเต็ดต้องมาเสียดายภายหลังหรือไม่?
เซิร์กซี ยังมีโอกาสฉายแสงที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด หรือไม่?
ต้องยอมรับว่า เซิร์กซี ยังไม่สามารถสร้างอิมแพ็คที่คาดหวังได้ นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 36.5 ล้านปอนด์เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะทำได้ 11 ประตูช่วยให้ โบโลญญ่า คว้าตั๋วไปเล่นแชมเปียนส์ลีก แต่ในฤดูกาลนี้ เขาทำได้เพียง 3 ประตูจาก 27 นัดในพรีเมียร์ลีก ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่น่าผิดหวัง
อย่างไรก็ตาม หาก ยูไนเต็ด ซื้อตัว เซิร์กซี เพื่อเป็นกองหน้าที่เน้นการทำประตูเพียงอย่างเดียว อาจเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะสมัยที่เล่นให้ โบโลญญ่า แม้ว่าเขาจะยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า แต่บทบาทหลักของเขาคือการเคลื่อนที่หาช่องและสร้างพื้นที่ให้เพื่อนร่วมทีมมากกว่าการเป็นตัวจบสกอร์โดยตรง
แม้ผลงานของเขาจะยังไม่เป็นที่น่าพอใจ แต่ เซิร์กซี ยังคงมีความสามารถในการดึงตัวประกบและเคลื่อนที่ไปในพื้นที่อันตรายได้ดี เพียงแต่เขายังขาดความเด็ดขาดในการทำประตู หาก อโมริม สามารถช่วยให้เขากลับมามั่นใจอีกครั้ง ก็อาจยังมีอนาคตกับ ยูไนเต็ด อยู่
ปัญหาสำคัญของ เซิร์กซี คือ การจบสกอร์ที่ยังต่ำกว่ามาตรฐาน ฤดูกาลนี้เขามีค่า xG (expected goals) เฉลี่ย 0.30 ต่อเกม ซึ่งใกล้เคียงกับตอนเล่นในอิตาลี (0.29) นั่นหมายความว่าเขายังสามารถเข้าไปอยู่ในตำแหน่งทำประตูได้บ่อยครั้ง แต่การจบสกอร์ของเขายังขาดความคม โดยเขาทำได้เพียง 1 ประตูต่อ 4 เกมเต็ม ซึ่งแย่กว่าช่วงที่เล่นให้ โบโลญญ่า
ฮอยลุนด์ จะกลับมาร้อนแรงได้อีกครั้งหรือไม่?
ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ปีก่อน ฮอยลุนด์ ที่ย้ายมาจาก อตาลันต้า ด้วยค่าตัวรวมสูงถึง 72 ล้านปอนด์ ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 6 นัดติดต่อกัน และดูเหมือนว่าจะกลายเป็นกองหน้าชั้นนำของทีม แต่หลังจากนั้น เขากลับทำได้เพียง 5 ประตูจาก 32 นัด ซึ่งฟอร์มการเล่นของเขาดูเหมือนจะตกต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด
สาเหตุที่ ยูไนเต็ด คว้าตัว ฮอยลุนด์ เพราะเขามีช่วงเวลาที่ร้อนแรงแบบนี้ในเซเรีย อา แต่ปัญหาคือเขายังไม่สามารถทำผลงานได้อย่างสม่ำเสมอ เขามีความเร็วและพละกำลังที่เหมาะกับพรีเมียร์ลีก แต่ยังหาจังหวะในการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของตัวเองไม่ได้
ที่น่ากังวลคือ ฮอยลุนด์ มีค่า xG ต่อเกมเพียง 0.17 ซึ่งถือว่าต่ำมากสำหรับกองหน้าในพรีเมียร์ลีก และน้อยกว่า เซิร์กซี เกือบครึ่งหนึ่ง แม้ว่าส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะขาดการสนับสนุนที่ดีจากเพื่อนร่วมทีม แต่การที่เขาไม่สามารถหาพื้นที่ว่างหรือล้มตัวประกบได้บ่อยพอ ก็ถือเป็นปัญหาเช่นกัน
นอกจากนี้ ฮอยลุนด์ ยังขาดความมั่นใจในจังหวะสุดท้าย เช่นเดียวกับที่ เซิร์กซี กำลังเผชิญอยู่ โดยตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2024/25 เขาทำประตูในพรีเมียร์ลีกได้เพียง 2 ลูก ซึ่งถือว่าน้อยเกินไปสำหรับกองหน้าตัวหลักของทีม
ข้อดีของ ฮอยลุนด์ เมื่อเทียบกับ เซิร์กซี คือ เขาเคยพิสูจน์มาแล้วว่า สามารถทำประตูในลีกสูงสุดได้ แม้จะยังไม่สม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม สไตล์การเล่นของเขาอาจไม่เข้ากับระบบของ อโมริม ที่ต้องการกองหน้าที่สามารถเคลื่อนที่ไปริมกรอบเขตโทษ สร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีม และไม่ได้เป็นเพียงจอมทำประตูเท่านั้น ซึ่ง ฮอยลุนด์ ยังขาดทักษะเหล่านี้ หากเทียบกับ วิคเตอร์ เกียวเคเรส ที่ อโมริม ปลุกปั้นที่ สปอร์ติ้ง ลิสบอน
ยูไนเต็ด อาจต้องปล่อยทั้งสองคน?
ในบางจุด ยูไนเต็ด อาจต้องเลือก “ตัดขาดทุน” และหาทางนำเงินกลับมาใช้ใหม่ แทนที่จะยึดติดกับนักเตะที่ยังไม่สามารถยกระดับทีมได้ อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ดูเหมือนว่า ฮอยลุนด์ อาจมีปัญหามากกว่า เซิร์กซี
ทั้งนี้ การเจรจาอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ยูไนเต็ด ฝ่ายเดียว เพราะ นาโปลี ถือไพ่เหนือกว่าในการเจรจา และสามารถกำหนดเงื่อนไขได้เอง อีกทั้งก่อนหน้านี้ พวกเขาเคยพยายามขอซื้อตัว อเลฆานโดร การ์นาโช่ ในช่วงตลาดเดือนมกราคม แต่ไม่สามารถตกลงค่าตัวได้ ดังนั้น ยูไนเต็ด อาจต้องพิจารณาข้อเสนอขายปีกชาวอาร์เจนไตน์แทน
สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าจะต้องเสียใครไป ยูไนเต็ด ก็ควรต้องทำทุกวิถีทางเพื่อคว้าตัว โอซิมเฮน ให้ได้ หากพวกเขาต้องการกลับไปสู่เส้นทางลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรปอีกครั้ง ปัญหาใหญ่ที่สุดของทีมตอนนี้คือการขาดแคลนประตู และ โอซิมเฮน อาจเป็นคำตอบ ในขณะที่ ฮอยลุนด์ และ เซิร์กซี ยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้