รูด ฟาน นิสเตลรอย มีโอกาสพาทีม เลสเตอร์ ซิตี้ หลุดพ้นจากโซนตกชั้นหากเก็บชัยชนะในเกมนี้ แต่สุดท้ายพวกเขายังคงจมอยู่ในอันดับรองบ๊วย โดยมีคะแนนตามหลังพื้นที่ปลอดภัยอยู่สองแต้ม
โยอัน วิสซ่า, ไบรอัน เอ็มเบวโม่ และ คริสเตียน นอร์การ์ด ทำคนละประตูให้ เบรนท์ฟอร์ด ตั้งแต่ครึ่งแรก ส่งผลให้ เลสเตอร์ ซิตี้ เจอกับสถานการณ์ที่ย่ำแย่อย่างหนัก
ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ ยิงประตูปลอบใจในช่วงท้ายเกม แต่สุดท้าย “จิ้งจอกสยาม” ต้องพบกับความพ่ายแพ้เป็นนัดที่ 10 จาก 11 เกมลีกหลังสุด ท่ามกลางเสียงโห่จากแฟนบอลในสนาม ซึ่งยิ่งเพิ่มความกดดันให้กับ ฟาน นิสเตลรอย ที่กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนัก
นอกจากนี้ เลสเตอร์ ซิตี้ ยังสร้างสถิติอันไม่น่าจดจำ ด้วยการเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่แพ้เกมเหย้าติดต่อกันถึง 6 นัดโดยไม่สามารถทำประตูได้แม้แต่ลูกเดียว
ด้วยจำนวนเกมที่เหลือเพียง 12 นัด พวกเขากำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างหนักที่จะต้องกลับไปเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ เพียงแค่ฤดูกาลเดียวหลังจากเลื่อนชั้นขึ้นมา
การบริหารที่ผิดพลาด และปัญหาผู้จัดการทีม
การที่ เอนโซ่ มาเรสก้า ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเพื่อไปรับงานคุม เชลซี หลังจากพา เลสเตอร์ ซิตี้ เลื่อนชั้นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ทำให้เจ้าของทีมชาวไทยต้องหากุนซือคนใหม่เข้ามาแทน แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถเข้ามาทำทีมได้ดีเทียบเท่า
สตีฟ คูเปอร์ ถูกปลดออกจากตำแหน่งหลังจากคุมทีมได้เพียง 5 เดือน และการเข้ามาของ ฟาน นิสเตลรอย ก็ไม่ได้ช่วยให้ทีมดีขึ้นแต่อย่างใด
ในฤดูกาลนี้ เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าชัยชนะได้เพียง 4 นัดจาก 26 เกมในลีก และในจำนวนนั้น ฟาน นิสเตลรอย เป็นคนพาทีมชนะได้เพียง 2 นัดจาก 15 เกมที่เขาคุมทีม
“เลสเตอร์ ซิตี้ ย่ำแย่ตั้งแต่เริ่มเกม”
ฟาน นิสเตลรอย ได้ชมเกมที่ เลสเตอร์ ซิตี้ พ่ายให้กับ เบรนท์ฟอร์ด จากบนอัฒจันทร์เมื่อเดือนพฤศจิกายน ก่อนที่เขาจะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ แม้ครั้งนั้นเขาจะไม่ต้องรับผิดชอบต่อผลการแข่งขัน แต่ในเกมนี้ไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ สำหรับเขาอีกต่อไป
เจมี่ วาร์ดี้ ต้องการอีกเพียง 2 ประตูเพื่อให้ครบ 200 ประตูในทุกรายการกับสโมสร และเขามีโอกาสเข้าใกล้เป้าหมายนี้ตั้งแต่ช่วงต้นเกม
กองหน้าวัยเก๋าพาบอลเข้าไปในเขตโทษของ เบรนท์ฟอร์ด แต่ถูก มาร์ค เฟล็คเค่น เซฟลูกยิงเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
แต่แล้ว เบรนท์ฟอร์ด ก็มาได้ประตูขึ้นนำในนาทีที่ 17 จากการทำเกมรุกที่สวยงาม
เควิน ชาเด้ ใช้ลูกส้นส่งบอลไปให้ มิกเกล ดัมส์การ์ด ที่อยู่นอกกรอบเขตโทษ ก่อนที่เขาจะจ่ายบอลต่อให้ โยอัน วิสซ่า ยิงจ่อ ๆ ส่งบอลผ่านมือ แมดส์ แฮร์มันเซ่น เข้าไป
“แนวรับ เลสเตอร์ ซิตี้ รับมือเกมสวนกลับของ เบรนท์ฟอร์ด ไม่ไหว”
เกมสวนกลับของ เบรนท์ฟอร์ด ทำเอาแนวรับของ เลสเตอร์ ซิตี้ ปั่นป่วนอย่างหนัก และในนาทีที่ 27 เอ็มเบวโม่ มายิงประตูที่สองให้ทีม
เขารับบอลจาก ดัมส์การ์ด ทางฝั่งขวา ก่อนลากเข้าไปในกรอบเขตโทษและปั่นบอลโค้งเข้าเสาไกลอย่างสวยงาม เป็นประตูที่ 15 ของเขาในฤดูกาลนี้
สถานการณ์ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ย่ำแย่ลงไปอีกในนาทีที่ 32 เมื่อ นอร์การ์ด โขกบอลจากลูกฟรีคิกของ เอ็มเบวโม่ เข้าไปตุงตาข่าย ทำให้สกอร์ขยับเป็น 3-0
หลังเสียประตูนี้ แฟนบอลของ เลสเตอร์ ซิตี้ จำนวนมากเริ่มทยอยออกจากสนามทันที
ทีมของ โธมัส แฟรงค์ เกือบได้ประตูที่สี่ในช่วงท้ายเกมจากลูกยิงของ คริสตอฟเฟอร์ อาเยอร์ ที่ชนเสา
แต่พวกเขาก็ยังมาได้ประตูปิดท้ายในนาทีที่ 89 เมื่อ คาร์วัลโญ่ ซัดบอลเข้าไปจากการแอสซิสต์ของ เอ็มเบวโม่
“บทสรุปของเกม: เลสเตอร์ ซิตี้ เจอหายนะ”
เกมนี้สะท้อนให้เห็นปัญหาที่หนักหน่วงของ เลสเตอร์ ซิตี้ ทั้งเรื่องของผู้จัดการทีม และขวัญกำลังใจของนักเตะ
หาก ฟาน นิสเตลรอย ไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ในเร็ว ๆ นี้ พวกเขามีโอกาสสูงที่จะต้องตกชั้นกลับไปเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาลหน้า