รุด ฟาน นิสเตลรอย กุนซือของ เลสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับว่ายังไม่แน่ใจว่าเขาจะยังได้อยู่ในตำแหน่งหรือไม่ หลังทีมต้องหล่นชั้นสู่ แชมเปียนชิพ อย่างเป็นทางการ
เลสเตอร์ ซิตี้ เก็บได้เพียง 18 คะแนนจาก 33 นัด และถูกยืนยันการตกชั้นทันที หลังพ่าย ลิเวอร์พูล คาบ้านด้วยสกอร์ 0-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยังเหลือโปรแกรมอีก 5 เกม
ฟาน นิสเตลรอย วัย 48 ปี ถูกแต่งตั้งให้เข้ามารับงานเมื่อเดือนธันวาคม แทนที่ สตีฟ คูเปอร์ ที่ถูกปลดหลังทำทีมได้เพียง 157 วัน แต่ก็ไม่สามารถหยุดการตกชั้นได้ทัน
กุนซือชาวดัตช์พาทีมเก็บได้แค่ 8 แต้มจาก 20 นัดในลีก และยังมีสถิติสุดเลวร้ายที่ทีมไม่สามารถยิงประตูในเกมเหย้าได้เลยถึง 9 นัดติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นสถิติที่ย่ำแย่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
ฟาน นิสเตลรอย เปิดเผยว่าเขาได้พูดคุยกับบอร์ดบริหารของ เลสเตอร์ ซิตี้ แล้วเกี่ยวกับแผนการในอนาคตของสโมสร
“ผมมีแผนสำหรับการพาทีมกลับขึ้นมาอยู่แล้ว แต่ตอนนี้รอแค่ความชัดเจนร่วมกันเท่านั้น” เขากล่าว
“ยิ่งทุกอย่างชัดเจนเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีต่อสโมสรเท่านั้น”
แม้หลายฝ่ายคาดหวังว่าตำนานกองหน้าของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะสามารถปลุกฟอร์มของทีมจากแถบมิดแลนด์ให้กลับมาได้ แต่สุดท้ายก็พาทีมแพ้ไปถึง 16 จาก 18 นัดหลังสุด
ตอนนี้ เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องตั้งเป้าหมายใหม่กับการพยายามกลับคืนสู่พรีเมียร์ลีกทันที เหมือนที่เคยทำได้ภายใต้การคุมทีมของ เอนโซ มาเรสกา เมื่อฤดูกาลก่อน ก่อนที่เขาจะถูก เชลซี ดึงตัวไป
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีเครื่องบินขนาดเล็กบินผ่านเหนือ สนามคิง เพาเวอร์ พร้อมป้ายข้อความประท้วงเจ้าของทีมว่า “King Power ไร้ทิศทาง ปลดบอร์ดบริหารได้แล้ว”
จอน รัดกิน ผู้อำนวยการฟุตบอลของทีม ก็เป็นหนึ่งในผู้ถูกแฟนบอลโจมตีอย่างหนักตลอดฤดูกาล แม้เขาจะเป็นคนที่ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรให้ความไว้วางใจก็ตาม โดยรัดกินตกเป็นเป้าเนื่องจากนโยบายการซื้อขายนักเตะที่ล้มเหลวในช่วงหลัง
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ยังเป็นผู้บริหารของ คิง เพาเวอร์ บริษัทท่องเที่ยวชื่อดังของไทย ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักและผู้ถือครองชื่อสนามของทีม
แม้จะมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับตำแหน่งของเขา แต่ ฟาน นิสเตลรอย มองว่าแผนการคืนสู่พรีเมียร์ลีกควรสร้างขึ้นบนรากฐานของนักเตะเยาวชนจากระบบของสโมสร
ขณะเดียวกัน ตำนานของสโมสรอย่าง เจมี วาร์ดี ในวัย 38 ปี ก็ตัดสินใจอำลาสโมสรหลังจบฤดูกาลนี้ ปิดฉากหนึ่งในเรื่องราวเทพนิยายของวงการฟุตบอลอังกฤษ
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน วาร์ดี เพิ่งโพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดียระบายความรู้สึกว่า “โกรธและเสียใจ” กับฤดูกาลที่เขานิยามว่า “น่าอับอายและเละเทะ”
แม้จะอายุครบ 39 ปีในเดือนมกราคมที่กำลังจะมาถึง แต่เขายังไม่มีแผนจะแขวนสตั๊ด และเคยพูดไว้ว่าเชื่อว่ายังเล่นได้ต่อไปแม้จะอายุเกิน 40
โดยเจ้าตัวออกมายืนยันการอำลาในถ้อยคำสุดซึ้งว่า
“ถึงแฟนบอลของ เลสเตอร์ ซิตี้: ผมเสียใจที่วันนี้มาถึง แต่ผมรู้ดีว่าวันนี้ต้องมาสักวันหนึ่ง”
“13 ปีที่ผ่านมา มันคือช่วงเวลาที่เหลือเชื่อ ทั้งความสำเร็จมากมาย บางช่วงที่ยากลำบาก แต่โดยรวมแล้วคือความทรงจำที่ยอดเยี่ยม ผมเสียใจที่ต้องบอกลา แต่ผมคิดว่ามันถึงเวลาแล้ว”
“ผมขอขอบคุณทุกคนที่ให้การต้อนรับผมเหมือนเป็นคนในครอบครัว เลสเตอร์ จะเป็นบ้านของผมตลอดไป และผมจะติดตามดูความสำเร็จของสโมสรต่อไปในอนาคต”
“นี่คือคำอำลาจากผม… แต่คุณจะได้เห็นผมอีกแน่นอน ขอบคุณมากครับ”