มาร์คัส แรชฟอร์ด – ประวัตินักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

มาร์คัส แรชฟอร์ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

10 มาร์คัส แรชฟอร์ด – ประวัตินักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

ข้อมูลส่วนตัว

วัน/เดือน/ปีเกิด 31 ตุลาคม 1997
สถานที่เกิด แมนเชสเตอร์,​ อังกฤษ
สัญชาติ อังกฤษ
ตำแหน่ง กองหน้า
ย้ายมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ย้ายมาร่วมทีมเยาวชนสิงหาคม 2005
ลงเล่นเดบิวต์ให้ทีมชุดใหญ่กุมภาพันธ์ 2016

ประวัติ

มาร์คัส แรชฟอร์ด ลูกหม้อของ สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พันธุ์แท้ผู้เดบิวต์กับทีมตั้งแต่ฤดูกาล 2015/16 และก้าวขึ้นมาเป็นคีย์แมนของทัพ ปีศาจแดง นับตั้งแต่นั้น

ผลผลิตจากอคาเดมีของ เร้ดเดวิลส์ อยู่กับทีมเยาวชนมาตั้งแต่อายุ 8 ปี (2005) ก่อนจะได้รับโอกาสลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 และสังหารประตูให้กับทีมตั้งแต่เกมแรกใส่ มิดเทิลแลนด์ ในศึก ยูฟ่า ยูโรปาลีก ต่อด้วยการตะบันใส่ อาร์เซนอล ทันทีในเกมถัดมาบนเวที พรีเมียร์ลีก

แรชฟอร์ด ประเดิมฤดูกาลแรกด้วยเกียรติยศพาทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ด้วยการซัลโวใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ก้าวขึ้นไปติดทีมชาติ อังกฤษ ในปีเดียวกันทำสถิติกลายเป็นแข้ง สิงโตคำราม อายุน้อยที่สุดที่ยิงได้ในเกมเดบิวต์ ทำลายสถิติเดิมของ ทอมมี ลอว์ตัน ในปี 1938 และเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดลุยศึก ยูโร 2016

ในฤดูกาลถัดมา แรชฟอร์ด ยกระดับกลายเป็นหัวใจสำคัญของ แมนฯ ยูไนเต็ด กับสถิติการลงเล่น 53 นัดเมื่อรวมทุกรายการ ตะบันประตู 11 ลูกกับ 7 แอสซิสต์ภายใต้การคุมทีมของ โชเซ มูรินโญ ต่อด้วยการแสดงให้เห็นถึงความเยือกเย็นในสนามด้วยการเป็นคนสังหารประตูจากลูกจุดโทษให้กับทีมชาติ อังกฤษ ในศึก ฟุตบอลโลก เกมดวล โคลอมเบีย โดยในซีซันนั้นเขายังตะบันจุดโทษผ่านมือ จานลุยจิ บุฟฟอน ในเกมกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ ปาร์ก เดส์ แปรงซ์

โอเล กุนนาร์ โซลชา กุนซือคนถัดมาของ ปีศาจแดง เข้ามายกระดับการจบสกอร์ของ แรชฟอร์ด ไปอีกขั้น โดยในฤดูกาล 2019/20 กลายเป็นซีซันที่เขาสังหารประตูได้มากที่สุดนับตั้งแต่เดบิวต์กับสถิติ 22 ประตูเมื่อรวมทุกรายการจากการลงเล่น 44 นัด

ประตูที่ 50 ของเจ้าตัวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 2019 เขาคว้าเกียรติยศผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ พีเอฟเอ ในเดือนธันวาคม ก่อนจะลงเล่นนัดที่ 200 ให้กับทีมในเดือนมกราคม 2020 โดยสังหาร 2 ประตูใส่ นอริช ซิตี้ พาทีมเอาชนะไปด้วยสกอร์ 4-0

อาการบาดเจ็บที่หลังส่งผลให้เขาต้องร้างสนามไปพักใหญ่ก่อนหน้าการแพร่ระบาดของ โควิด-19 โดย แรชฟอร์ด ใช้เวลานอกสนามไปกับแคมเปญการช่วยเหลือคนไร้บ้านและสนันสนุนอาหารให้กับเยาวชนในสหราชอาณาจักร ทำให้เขาได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ MBE จากกิจกรรมข้างต้น

ให้หลังจากอาการบาดเจ็บ แรชฟอร์ด ยังทำผลงานได้น่าประทับใต่อเนื่องในฤดูกาล 2020/21 กับสถิติ 21 ประตู 15 แอสซิสต์จาก 57 นัด ตามด้วยการรับบทบาทกัปตันทีมชาติ อังกฤษ เป็นครั้งแรกในเกมกระชับมิตรกับ โรมาเนีย ก่อนหน้า ยูโร 2020 จะฟาดแข้ง และสังหารประตูที่ 100 ในเส้นทางค้าแข้งกับแมตช์ดังกล่าวด้วยวัยเพียง 23 ปี

เมื่อจบศึก ยูโร มาร์คัส แรชฟอร์ด เข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่ ทำให้เจ้าตัวพลาดการลงสนามในช่วงต้นของฤดูกาล 2021/22 ก่อนจะคัมแบ็คด้วยประตูในเกมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในเดือนตุลาคม 2021

โอกาสของ แรชฟอร์ด ถูกจำกัดอยู่บ้างภายใต้การคุมทีมของ โซลชาร์ และ ราล์ฟ รังนิค ในฤดูกาลนี้กับสถิติ 32 นัดตลอดทั้งซีซันสังหาร 5 ประตู 2 แอสซิสต์

ถัดมากับฤดูกาล 2022/23 กลายเป็นฤดูกาลที่เขาระเบิดฟอร์ม ทำผลงานได้ร้อนแรงที่สุดนับตั้งแต่ค้าแข้งอาชีพ เจ้าตัวยิงประตูแตะหลัก 30 ลูกเมื่อรวมทุกรายการ กลายเป็นนักเตะ ปีศาจแดง คนแรกต่อจาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี ที่ทำได้ในปี 2013 และก้าวขึ้นไปคว้ารางวัล เซอร์แม็ตต์ บัสบี ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของ เร้ดเดวิลส์ ในปีดังกล่าว รวมทั้งยังได้รับรางวัลแข้งยอดเยี่ยมแห่งปีจากการลงคะแนนของเพื่อนร่วมทีม

แรชฟอร์ด สังหารประตูในเกม คาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 พาทีมเอาชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-0 คว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยเล็กของ อังกฤษ สำเร็จในฤดูกาลนั้นและเป็นคีย์แมนของทีมชาติ อังกฤษ ในศึก ฟุตบอลโลก กาตาร์ 2022

ซีซัน 2023/24 แรชฟอร์ด เริ่มต้นด้วยการจรดปากกาขยายสัญญากับทีมไปจนถึงปี 2028 หากแต่ฟอร์มของเจ้าตัวตกลงไปเล็กน้อยเมื่อทำได้เพียง 8 ประตูกับ 5 แอสซิสต์จากการลงเล่น 43 เกมในทุกรายการ

15 Replies to “มาร์คัส แรชฟอร์ด – ประวัตินักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”

Comments are closed.