โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นหัวใจสำคัญอีกครั้ง เมื่อ ลิเวอร์พูล เหนือกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าชัยชนะ 2-0 และขยายความเป็นผู้นำในตำแหน่งจ่าฝูงของ พรีเมียร์ลีก เป็น 11 คะแนน
ดาวเตะชาวอียิปต์ ทำประตูขึ้นนำหลังจากผ่านไปเพียง 14 นาที จบสกอร์จากลูกสูตรเตะมุม โดยยิงบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ หลังจากที่ โดมินิค โซโบสไล สะกิดบอลต่ำจากลูกเตะมุมมาเข้าทาง ซาลาห์ เป็นครั้งแรก จากนั้น ซาลาห์ ก็กลายเป็นผู้จ่าย โดยแอสซิสต์ให้ โซโบสไล ทำประตูที่สองให้ ลิเวอร์พูล
มันเป็นอีกหนึ่งผลงานที่น่าทึ่ง ในฤดูกาลที่กำลังจะกลายเป็นประวัติศาสตร์สำหรับ ซาลาห์ ประตูและแอสซิสต์ของเขา ทำให้เขามีส่วนร่วมกับประตูใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ถึง 41 ประตู เหลืออีกเพียง 6 ประตู ก็จะทำลายสถิติตลอดกาลของ อลัน เชียเรอร์ และ แอนดี้ โคล ที่ 47 ประตู โดยเหลืออีก 11 เกมให้เล่น ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เล่นสองคนนั้นทำสถิติของพวกเขาในฤดูกาลที่มี 42 เกม ทำให้ตัวเลขของ ซาลาห์ น่าทึ่งยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ยังหมายความว่า ซาลาห์ ได้ขยายสถิติที่น่าประทับใจของเขาในการเจอกับทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นับตั้งแต่ กวาร์ดิโอล่า เข้ารับตำแหน่งในปี 2016 ไม่มีผู้เล่นคนใดทำประตูใน พรีเมียร์ลีก ได้มากกว่า ซาลาห์ ที่ 9 ประตู
นี่เป็นเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ 11 ในฤดูกาลนี้ ที่ ซาลาห์ ทั้งทำประตูและแอสซิสต์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในฤดูกาลเดียว ทั่วยุโรป 5 ลีกใหญ่ นับตั้งแต่ ลิโอเนล เมสซี่ ทำได้ 11 ครั้งให้กับ บาร์เซโลน่า ในปี 2014-15
ในเกมที่ กวาร์ดิโอล่า ตั้งชื่อ 11 ตัวจริงที่อายุน้อยที่สุดร่วมกันสำหรับ แมนฯ ซิตี้ (25 ปี 68 วัน) มันรู้สึกเหมือนเป็นผู้ใหญ่กับเด็กตลอดการแข่งขัน ซิตี้ อาจจะยิงได้มากกว่า ลิเวอร์พูล สองเท่า (16 ต่อ 8) แต่ทีมเยือนยังคงจบด้วยค่า expected goals (xG) ที่สูงกว่า และทำให้ ซิตี้ อยู่ห่างๆ ตลอด