แมนฯ ยูไนเต็ด ปรับใหญ่! สตีฟ บราวน์ ผอ.แมวมอง อำลาทีม เซ่นแผนลดขนาดฝ่ายสรรหาบุคลากรยุค แรตคลิฟฟ์

สตีฟ บราวน์ ผู้อำนวยการฝ่ายแมวมองของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังจะอำลาสโมสร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในกลยุทธ์การสรรหาบุคลากรที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ภายใต้การบริหารของ เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์

จำนวนแมวมองที่สโมสรจ้างงานอยู่จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นผลมาจากการผลักดันให้มีการลดจำนวนพนักงานเป็นครั้งที่สองในยุคของ แรตคลิฟฟ์ โดยจะมีการประชุมร่วมกับฝ่ายทรัพยากรบุคคลที่ แคร์ริงตัน ในสัปดาห์หน้า เพื่อแจ้งให้ผู้ที่อยู่ในข่ายเสี่ยงต่อการตกงานทราบ

ปัจจุบัน แมนฯ ยูไนเต็ด มีเครือข่ายแมวมองทั่วโลกประมาณ 80 คน และ แรตคลิฟฟ์ ได้แสดงความชัดเจนว่าเขารู้สึกว่าจำนวนนี้สูงเกินไป ระดับพนักงานในส่วนนี้ได้ลดลงจากเมื่อสองสามปีก่อนแล้ว ซึ่งตอนนั้น ยูไนเต็ด มีแมวมองถึง 140 คน (พนักงานประจำ 50 คน และพาร์ทไทม์ 90 คน)

บราวน์ ถือเป็นสมาชิกระดับสูงที่สุดของฝ่ายแมวมองที่ต้องอำลาทีมไปท่ามกลางการปรับโครงสร้างครั้งนี้ เขาได้แจ้งการตัดสินใจของตนเองให้เหล่าแมวมองทราบผ่านทางอีเมล โดยอธิบายว่าเขาได้ปฏิเสธข้อเสนอตำแหน่งอื่นจาก เจสัน วิลค็อกซ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค และ คริสโตเฟอร์ วิเวลล์ ผู้อำนวยการฝ่ายสรรหาบุคลากร เนื่องจากประสบการณ์และช่วงเวลาในอาชีพของเขา บราวน์ ได้ขอบคุณเพื่อนร่วมงานสำหรับความพยายาม และเรียก ยูไนเต็ด ว่าเป็น “สถานที่พิเศษ” เขาจะทำงานต่อไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน

บราวน์ อยู่กับสโมสรมาตั้งแต่ปี 2016 โดยได้รับการว่าจ้างจาก จอห์น เมอร์ทัฟ อดีตผู้อำนวยการฟุตบอล หลังจากที่เคยทำงานร่วมกันที่ เอฟเวอร์ตัน เขาเป็นบุคคลสำคัญในการเปิดตัว ‘Project Bethlehem’ ซึ่งเป็นชื่อรหัสสำหรับการปรับโครงสร้างการสรรหาบุคลากรครั้งใหญ่ของ ยูไนเต็ด และ ‘TrackerMan’ ฐานข้อมูลส่วนกลางที่สโมสรสร้างขึ้นเองเพื่อรวบรวมข้อมูลผู้เล่นหลายร้อยคนโดยใช้รายงานจากแมวมองและข้อมูลสถิติ

บราวน์ ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นมืออาชีพอย่างสูง มีส่วนร่วมในการประชุมเพื่อเลือกเป้าหมายการซื้อขายนักเตะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก และมักจะปรากฏตัวในบ็อกซ์ของผู้บริหารที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นประจำ

อย่างไรก็ตาม มีเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับระบบ TrackerMan ว่า แม้ระบบจะครอบคลุมและระบุผู้เล่นที่มีพรสวรรค์ได้ แต่คำแนะนำจากแมวมองกลับไม่ได้รับการดำเนินการอย่างเด็ดขาด และการสื่อสารก็มีจำกัด การเข้ามาของ วิเวลล์ ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายสรรหาบุคลากร หมายถึงการมีผู้บริหารระดับสูงขึ้นมาอีกชั้นเหนือ บราวน์

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการลดจำนวนพนักงานครั้งใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะมีพนักงานมากถึง 200 คนต้องตกงาน ตามหลังการลดพนักงาน 250 คนเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว