อนาคตของ แจ็ค กรีลิช กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย เมื่อมีรายงานว่า น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ก้าวขึ้นมาเป็นตัวเต็งหน้าใหม่แบบเหนือความคาดหมาย โดยรายงานจาก Caught Offside ระบุว่า
ตอนนี้ กรีลิช ไม่ได้อยู่ในสถานะ “ห้ามแตะต้อง” ของทีมอีกต่อไป ดาวเตะค่าตัว 100 ล้านปอนด์ที่ย้ายมาจาก แอสตัน วิลล่า เมื่อปี 2021 พร้อมกระแสคาดหวังมหาศาล แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่อาจตอบสนองได้อย่างที่แฟน ๆ หวัง
ความพยายามของ ฟอเรสต์ ในการคว้า กรีลิช เป็นสัญญาณชัดเจนว่าพวกเขากำลังพยายามยกระดับสถานะของสโมสรในเวทีพรีเมียร์ลีก หลังจากรอดตกชั้นอย่างหวุดหวิดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ตอนนี้พวกเขาฝันไกลถึงฟุตบอลยุโรป แม้ผลงานของ กรีลิช จะไม่เปรี้ยงปร้าง แต่ชื่อชั้นยังคงดึงดูด และการคว้าตัวเขามาร่วมทีมจะสร้างแรงสั่นสะเทือนทั่วลีกแน่นอน อย่างไรก็ดี พวกเขาต้องเจอคู่แข่งอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์, นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด, รวมถึงอาจมี เวสต์แฮม ยูไนเต็ด และ แอสตัน วิลล่า ที่พร้อมร่วมวงด้วย
ในแง่การเงิน นี่คือภาพสะท้อนถึงความโหดเหี้ยมเชิงธุรกิจของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะพวกเขาพร้อมรับข้อเสนอในระดับ 38-43 ล้านปอนด์ ซึ่งหมายถึงการยอมขาดทุนอย่างหนัก ท่ามกลางตลาดนักเตะที่เงินเฟ้อสุดขีด นี่คือการยอมรับว่า แม้ กรีลิช จะมีส่วนร่วมกับทีมอยู่บ้าง ด้วยผลงาน 17 ประตูและ 23 แอสซิสต์ จาก 155 นัด แต่ก็ไม่เคยถึงขั้นเปลี่ยนเกมได้อย่างที่คาดหวัง
การปรับโฉมทีมภายใต้การคุมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ความเต็มใจของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่จะปล่อย กรีลิช ออกไป เป็นส่วนหนึ่งของการยกเครื่องทีมที่ เอติฮัด สเตเดียม ทีมที่ประสบความสำเร็จระดับสูงของเขาต้องการความสดใหม่อยู่เสมอ และแม้นักเตะบางรายเคยเป็นศูนย์กลางของทีม ก็สามารถกลายเป็นส่วนเกินได้ในพริบตา เช่นเดียวกับ กรีลิช ที่ตอนนี้ตกเป็นตัวเลือกรองจากทั้ง ฟิล โฟเด้น และ เฌเรมี่ ด็อกู
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่าอับอายแต่อย่างใด เพราะมาตรฐานของ ซิตี้ สูงลิบลิ่ว กรีลิช สามารถย้ายออกไปพร้อมเหรียญแชมป์ในกระเป๋า ทั้งพรีเมียร์ลีก 3 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 1 สมัย และเอฟเอ คัพ แต่ก็คงมีความรู้สึกค้างคาอยู่ไม่น้อยว่าตัวเองยังไม่เค้นศักยภาพเต็มที่ที่ เอติฮัด
ในโลกฟุตบอลระดับสูง ความสำเร็จในอดีตไม่อาจการันตีอนาคตได้ หากหยุดพัฒนา ก็พร้อมถูกแทนที่ทันที
ทางสองแพร่งของ แจ็ค กรีลิช : ทางเลือกใหม่เพื่อฟื้นคืนชื่อ
สำหรับ กรีลิช เวลานี้คือช่วงตัดสินใจครั้งสำคัญ ข้อเสนอจาก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ อาจดูเสี่ยง แต่ก็แฝงไปด้วยโอกาสที่จะกลับมาเป็นศูนย์กลางของทีมอีกครั้ง จุดประกายความมั่นใจและสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้เขาโด่งดังในศึกยูโร 2020
ขณะที่ นิวคาสเซิ่ล ก็น่าสนใจในฐานะโครงการใหญ่แห่งใหม่ของอังกฤษ หรือจะเป็นการกลับไป แอสตัน วิลล่า สโมสรที่เขาผูกพันตั้งแต่เยาวชน
ไม่ว่าทางเลือกไหน นี่จะเป็นการกำหนดบทสรุปของช่วงพีคในอาชีพค้าแข้งของเขา
รางวัลมากมาย แต่ภาพจำเลือนลาง
เป็นเรื่องน่าแปลกที่นักเตะที่ขึ้นชื่อเรื่องความสร้างสรรค์และสไตล์เฉพาะตัวอย่าง กรีลิช กลับทิ้งช่วงเวลาที่ดีที่สุดกับสโมสรใหญ่ที่สุดแบบไร้ซึ่งโมเมนต์ที่ตราตรึงใจ มีเพียงถ้วยแชมป์มากมาย แต่ขาดช่วงเวลาสำคัญที่แฟน ๆ จะจดจำ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะเดินหน้าต่อไปตามปกติ เพราะนั่นคือวิถีของพวกเขา ส่วน กรีลิช ฤดูร้อนนี้คือโอกาสที่จะหาทีมใหม่ ที่เขาจะได้มีบทบาทสำคัญอีกครั้ง มากกว่าการเป็นเพียง “นักเตะค่าตัว 100 ล้านปอนด์” ที่ถูกลืม
มุมมองของ EPL Index ต่อสถานการณ์นี้
ในมุมของแฟน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ข่าวนี้ชวนให้รู้สึกทั้งเศร้าและเข้าใจได้ในเวลาเดียวกัน ด้านหนึ่ง แจ็ค กรีลิช เป็นสมาชิกที่มีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะในฤดูกาลที่ทีมคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ การครองบอลเหนียวแน่น ความสามารถในการเรียกฟาวล์ ทำให้ทีมได้พักหายใจในช่วงเกมตึงเครียด
แต่ความจริงก็คือ เขาไม่เคยก้าวขึ้นสู่สถานะ “ตัวเปลี่ยนเกม” ตามราคาค่าตัว 100 ล้านปอนด์ เมื่อพูดถึงช่วงเวลาสำคัญในรอบสามปีที่ผ่านมา ชื่อที่แฟนบอลนึกถึงกลับเป็น เควิน เดอ บรอยน์, เออร์ลิง ฮาแลนด์, โรดรี้ หรือ ฟิล โฟเด้น มากกว่าจะเป็น กรีลิช
การตัดสินใจปล่อยตัวเขา แม้ต้องยอมขาดทุน ก็ถือเป็นก้าวที่ถูกต้องในแง่ฟุตบอล เพื่อเปิดทางให้กับนักเตะพลังสดรุ่นใหม่
อย่างไรก็ตาม แฟน ซิตี้ ยังมีความรู้สึกผูกพันกับ กรีลิช เขาเป็นคนที่มีความเป็นมืออาชีพสูง ไม่เคยสร้างปัญหา และดูมีความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของทีม หากวันหนึ่งเขากลับมาเยือน เอติฮัด สเตเดียม สมควรได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น
สุดท้ายแล้ว ฟุตบอลคือเกมที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ความรู้สึกส่วนตัวไม่อาจขวางความทะเยอทะยานในการไล่ล่าความสำเร็จของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้