อาร์แซน เวนเกอร์ เชื่อว่าการพบกับสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสได้ช่วยให้การทำข้อตกลงการย้ายทีมมูลค่า 16 ล้านปอนด์ระหว่างอาร์เซนอลและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเสร็จสิ้น
อดีตผู้จัดการทีมอาร์เซนอลใช้เวลาวันที่ปิดตลาดซื้อขายในปี 2014 ที่กรุงโรมก่อนที่จะมีนัดสำคัญกับสมเด็จพระสันตะปาปา ซึ่งพระองค์เสด็จสวรรคตเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาในวัย 88 ปี
เวนเกอร์กล่าวว่า นี่เป็นประสบการณ์ที่เขา “ไม่อยากพลาด” แม้ว่าวันปิดตลาดจะเป็นวันที่ยุ่งยากและเครียดที่สุดวันหนึ่งของปีสำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอล
อดีตผู้จัดการทีมระดับตำนานยังได้ตกลงที่จะมีส่วนร่วมในเกมการกุศลที่กรุงโรมเพื่อส่งเสริม “สันติภาพและความเข้าใจระหว่างศาสนา” โดยที่เวนเกอร์ยังคงเจรจาการย้ายทีมในขณะรอคิวเข้าพบสมเด็จพระสันตะปาปา แต่เขาก็เก็บโทรศัพท์ของเขาก่อนการพบปะส่วนตัว
“การพบกับสมเด็จพระสันตะปาปาเป็นประสบการณ์ที่ผมไม่อยากพลาด” เวนเกอร์กล่าวในภายหลัง “ผมเป็นคาทอลิก ดังนั้นมันจึงเป็นประสบการณ์ที่ผมยอมรับมานานแล้ว
“ยิ่งไปกว่านั้นมันเป็นเกมเพื่อสันติภาพและความเข้าใจระหว่างศาสนา ผมคิดว่าปัจจุบันที่เราเผชิญกับสงครามศาสนาระหว่างประเทศ [ในกาซ่า] มันจึงเป็นเกมที่สำคัญมาก
“พระองค์เป็นคนยิ่งใหญ่ แสดงให้เห็นถึงความถ่อมตนและพร้อมที่จะพบปะกับทุกคน พระองค์ยังเป็นแฟนฟุตบอลอีกด้วย พระองค์เป็นแฟนของซาน ลอเรนโซ่ในอาร์เจนตินา คุณไม่สามารถเกิดในอาร์เจนตินาแล้วไม่เป็นแฟนฟุตบอล
“พระองค์พูดคุยกับชาวอาร์เจนตินาหลายคน ดังนั้นผมอยากจะเป็นคนที่ไม่เด่นเกินไปและแค่พูดว่า ‘ดีใจที่ได้พบคุณและลาก่อน’”
เวนเกอร์เชื่อว่าการพบกับสมเด็จพระสันตะปาปาทำให้เขามี “ความได้เปรียบ” ในการเซ็นสัญญากับแดนนี่ เวลเบ็คกองหน้าชาวอังกฤษจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ผู้จัดการทีมชาวฝรั่งเศสตื่นแต่เช้าในวันนั้นเพื่อเริ่มต้นการเดินทางไปกรุงโรม และใช้เวลาระหว่างการเดินทางเพื่อทำให้การเจรจาการย้ายทีมดำเนินไปข้างหน้า
ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ก็แสดงความสนใจในเวลเบ็ค แต่สุดท้ายอาร์เซนอลตกลงค่าตัวมูลค่า 16 ล้านปอนด์เพื่อนำกองหน้ารายนี้มาที่เอมิเรตส์ สเตเดียม
“ในปี 2014 คุณสามารถติดต่อกับทุกคนได้แม้ในขณะที่เดินทาง” เขากล่าว
“ข้อดีของวันนั้นคือผมต้องตื่นตอน 6 โมงเช้าเพื่อเดินทางและผมก็มีเวลาว่างทั้งวัน”
เวลเบ็คทำไปกว่า 100 นัดให้กับอาร์เซนอล แต่เขาอาจทำผลงานได้ดีที่สุดในช่วงหลังของอาชีพที่ปัจจุบันกับไบรท์ตัน
หลายคนเชื่อว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอาจทำผิดพลาดที่ขายเขาไปในตอนนั้นเมื่อเห็นฟอร์มที่ฟื้นคืนของเขาที่ชายฝั่งตอนใต้
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเสด็จสวรรคตในวันจันทร์อีสเตอร์หลังจากที่ประสบปัญหาสุขภาพและต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 5 สัปดาห์จากปอดบวม
ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่โดยวาติกันเมื่อวันจันทร์ คาร์ดินัล เควิน ฟาร์เรลล์กล่าวว่า “ในเช้าวันนี้เวลา 07:35 ตามเวลาท้องถิ่น สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเสด็จกลับสู่บ้านของพระบิดา
“ชีวิตทั้งหมดของพระองค์ทุ่มเทให้กับการรับใช้พระเจ้าทั้งหลายและพระศาสนจักร พระองค์สอนเราให้ใช้ชีวิตตามค่านิยมของพระกิตติคุณด้วยความภักดี ความกล้าหาญ และความรักทั่วโลก โดยเฉพาะต่อคนยากจนและผู้ถูกมองข้าม
“ด้วยความขอบคุณอันยิ่งใหญ่สำหรับตัวอย่างของพระองค์ในฐานะศิษย์ที่แท้จริงของพระเยซูเจ้า เราขอฝากจิตวิญญาณของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสไว้กับความรักอันไม่มีที่สิ้นสุดของพระเจ้า”
นายกรัฐมนตรีอังกฤษ คีร์ สตาร์เมอร์ ได้แสดงความเสียใจต่อการจากไปของสมเด็จพระสันตะปาปาและกล่าวว่า “พระองค์เป็นสันตะปาปาสำหรับคนยากจน ผู้ถูกกดขี่และผู้ถูกลืม”
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวผ่านโซเชียลมีเดียว่า “ขอให้พระองค์พักผ่อนในความสงบ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส! ขอพระเจ้าอวยพรพระองค์และทุกคนที่รักพระองค์!”