คาร์ลอส บาเลบา: จากล้อยางรถบรรทุก สู่ว่าที่แข้ง 100 ลป. คนต่อไปของ ไบรท์ตัน

สำหรับ คาร์ลอส บาเลบา กองกลางดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดคนหนึ่งใน พรีเมียร์ลีก เวลานี้ ทุกอย่างเริ่มต้นจาก “ล้อยางรถบรรทุก” เรื่องราวชีวิตในวัยเด็ก ณ เมืองดูอาลา ประเทศแคเมอรูน เขาใช้เวลาไปกับการวิ่ง กระโดด และตีลังกาลงบนล้อยางเก่าๆ หน้าบ้าน กลายเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสู่นักฟุตบอลอาชีพที่น่าจับตามอง

ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ บาเลบา ตัวน้อยก็กระโดดโลดเต้น ตีลังกาข้ามล้อยาง ก่อนจะออกไปวิ่งฝึกซ้อมนานถึง 2 ชั่วโมง พออายุ 13 เขาก็เริ่มยกน้ำหนัก สร้างกล้ามเนื้อทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน แม้จะฟังดูเป็นการฝึกที่โหดหินสำหรับเด็ก แต่ บาเลบา เล่าเรื่องราวเหล่านี้ด้วยแววตาเป็นประกายและรอยยิ้มกว้าง เพราะเขารักในสิ่งที่ทำ และรู้ดีว่าความทุ่มเทนั้นนำพาเขามาไกลแค่ไหน

“ตอนอยู่ที่แคเมอรูน ผมซ้อมกับพ่อ [ยูจีน] และเขาเข้มงวดกับผมมาก” บาเลบา กล่าว “ตอนอยู่ ลีลล์ ก็เหมือนกัน พ่อโทรหาผมทุกวัน บอกว่าผมต้องทำงานหนักต่อไป วันนี้ผมเห็นผลตอบแทนจากความพยายามทั้งหมดแล้ว และผมอยากจะทำต่อไปแบบนี้”

ไบรท์ตัน คือสโมสรล่าสุดที่ได้ประโยชน์จากความมุ่งมั่นนี้ หลังจากเซ็นสัญญาคว้าตัว บาเลบา มาจาก ลีลล์ ด้วยค่าตัวราว 23 ล้านปอนด์เมื่อซัมเมอร์ปี 2023 หนึ่งปีหลังจากการปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษ แข้งวัย 21 ปี กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่น่าประทับใจและไว้ใจได้มากที่สุดของทีมในฤดูกาลนี้ โดยได้ลงเป็นตัวจริงเกือบทุกนัดในลีก

ด้วยส่วนผสมอันยอดเยี่ยมระหว่างพละกำลังมหาศาลและทักษะทางเทคนิค (ทักษะการเลี้ยงบอลทำให้เขาได้ฉายา “มาราโดน่า” ที่แคเมอรูน) ทำให้เกิดความคาดหวังว่าเขาอาจเป็นนักเตะคนต่อไปที่จะย้ายออกจาก ไบรท์ตัน ด้วยค่าตัวมหาศาล เขาเข้ามาทดแทน มอยเซส ไกเซโด้ ที่ย้ายไป เชลซี ด้วยค่าตัว 115 ล้านปอนด์ และไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะมองว่า บาเลบา อาจเป็น “ว่าที่กองกลาง 100 ล้านปอนด์” คนต่อไป

“ผมอยากทำได้มากกว่านี้” เขากล่าว “ผมอยากเป็นกองกลางชั้นยอด เป็นตำนานไปทั่วโลก ผมต้องทำงานหนัก แต่ผมจะทำทุกอย่างเพื่อสิ่งนั้น เพื่อเป็นกองกลางที่ยิ่งใหญ่ของโลก”

สิ่งที่ช่วย บาเลบา ในวัยเด็กคือพ่อของเขาไม่ได้เป็นแค่ผู้ปกครองที่เข้มงวด ยูจีน เคยเป็นนักเตะฝีเท้าดีที่เคยไปอยู่กับ แซงต์-เอเตียน ในฝรั่งเศส และเป็นโค้ชที่สถาบันอันทรงเกียรติอย่าง Ecole de Football Brasseries du Cameroun ซึ่ง บาเลบา ฝึกฝนอยู่ที่นั่น 5 ปีก่อนจะถูก ลีลล์ ดึงตัวไป

“พ่อทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีการลำเอียงเพียงเพราะผมเป็นลูกชายเขา” บาเลบา ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสารพัดประโยชน์ด้วยการเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็กได้อย่างน่าประทับใจในเกมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว กล่าว “แต่ผมเคยอยู่ซ้อมต่อกับพ่อทุกวันหลังการซ้อมปกติ เพื่อพยายามเก่งขึ้น”

การฝึกฝนไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในสนามฟุตบอล แต่ยังรวมถึงยิมนาสติก (ล้อยางรถบรรทุกหน้าบ้านกลายเป็นสปริงบอร์ดชั้นดี) ซึ่งอธิบายท่าดีใจตีลังกากลับหลังอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาได้เป็นอย่างดี “มันง่ายสำหรับผม” เขาหัวเราะเมื่อพูดถึงท่ากายกรรม ราวกับเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็ทำได้ “พ่อบอกว่ากายกรรมจะช่วยเรื่องจังหวะในการอ่านบอลหรือทำประตูด้วยลูกโหม่ง ผมจะวิ่งไปที่ล้อยางแล้วกระโดดตีลังกาหน้าหรือหลังลงบนนั้น”

บาเลบา มีบุคลิกที่ผ่อนคลายและมองโลกในแง่ดี เขามักถูกจับภาพได้ว่ากำลังเต้นอยู่ในอุโมงค์หลังจบเกม และเขาก็ยอมรับว่าชอบเต้นคนเดียวที่บ้าน (“บางครั้งผมแค่ต้องการขยับร่างกาย”) ยามว่างจากการดูภาพยนตร์สยองขวัญซึ่งเป็นงานอดิเรกโปรดอีกอย่าง “มันเป็นธรรมชาติ ผมเป็นคนมีความสุขมาก ถ้าใครรู้สึกแย่ ลองหัวเราะไปกับผมสิ มันอาจจะเปลี่ยนอะไรได้นะ”

‘แรงผลักดันของผมตอนนี้คือ แม่ พ่อ และน้องชาย’

แต่เรื่องราวของ บาเลบา ไม่ได้มีแต่รอยยิ้มและการตีลังกาอันสนุกสนาน ครอบครัวของเขาเพิ่งเผชิญกับความโศกเศร้า ในปี 2023 ไม่นานก่อนที่เขาจะเซ็นสัญญากับ ไบรท์ตัน ยาก้า แม่ของเขาได้จากไป การได้ฟัง บาเลบา พูดถึงแม่ และสัมผัสถึงความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะประสบความสำเร็จเพื่อท่าน ทำให้เราตระหนักว่า แม้จะมีพละกำลังและพรสวรรค์ในสนาม เขาก็ยังเป็นเพียงชายหนุ่มที่กำลังค้นหาเส้นทางของตัวเองในโลกใบนี้

“แม่ชอบเสมอเวลาพ่อบอกให้ผมซ้อม” เขาเล่า “ท่านไม่เหมือนแม่บางคนในแอฟริกาที่บอกว่า ‘ไม่นะ มันหนักเกินไปสำหรับเขา เขายังไม่ถึงวัยที่จะเข้ายิมหรือวิ่ง 2 ชั่วโมง’ แม่ผมไม่เป็นแบบนั้น ท่านอยากให้ผมทำงานหนัก”

“แรงผลักดันของผมตอนนี้คือแม่ แม่ พ่อ และน้องชาย ผมเล่นเพื่อพวกเขา ผมอยากเป็นนักเตะที่ดีเพื่อแม่”

ตอนเป็นวัยรุ่น บาเลบา สัญญากับแม่ว่าจะสร้างบ้านให้ท่านสักวัน เขาเลือกที่จะทำโครงการนั้นต่อเพื่อระลึกถึงท่าน “ผมบอกแม่ว่า ‘เมื่อผมเป็นนักเตะอาชีพ ผมจะสร้างบ้านให้แม่ ซื้อรถให้แม่’ ทุกอย่างเพื่อท่าน ผมบอกท่านตอนอายุ 13 ผมเริ่มสร้างบ้านตอนอยู่ ลีลล์ ตอนนี้เสร็จแล้ว มันเป็นบ้านหลังใหญ่มาก มันเพื่อท่าน”

บาเลบา กล่าวว่าความเจ็บปวดจากการสูญเสียแม่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ฤดูกาลแรกกับ ไบรท์ตัน (ซึ่ง โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ อดีตโค้ช เคยบอกว่าเขา “ยังไม่พร้อมสำหรับระดับนี้”) เป็นเรื่องท้าทาย เขายอมรับว่าตกตะลึงกับความเข้มข้นของลีกในช่วงแรก โดยเฉพาะตอนเจอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ “ผมรู้สึกประหม่า” เขากล่าว “มันเหมือนโดนช็อก หลังจากนั้น ผมก็ทำงานหนัก ผมไม่เคยยอมแพ้”

ดูเหมือนว่าการยอมแพ้จะไม่อยู่ในพจนานุกรมของ บาเลบา นี่คือกองกลางที่รู้ดีว่าเขาสามารถไปถึงระดับไหนได้ และจะไปถึงได้อย่างไร “ผมรู้สึกดี” เขากล่าว “ผมพัฒนาขึ้นทุกสัปดาห์”