2 วิคตอร์ ลินเดเลิฟ – ประวัตินักเตะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ข้อมูลส่วนตัว
วัน/เดือน/ปีเกิด | 17 กรกฎาคม 1994 |
สถานที่เกิด | วาสเตราส, สวีเดน |
สัญชาติ | สวีเดน |
ตำแหน่ง | กองหลัง |
ย้ายมาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด | 10 มิถุนายน 2017 |
ประวัติ
วิคตอร์ ลินเดเลิฟ สร้างชื่อมาในเกมนัดชิงชนะเลิศของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป รุ่นยู-21 โดยสังหารประตูในการดวลลูกจุดโทษแม้ว่าเพิ่งจะถูกเรียกติดทีมในฐานะตัวสำรองแต่สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในตำแหน่งแบ็คขวา ส่งผลให้ ลินเดเลิฟ ได้อยู่ในทีมยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ของ ยูฟ่า นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มแรงผลักดันให้กับอาชีพค้าแข้งของเขา โดยสามารถเบียดสู่ทีมชุดใหญ่ของ เบนฟิกา และได้รับประสบการณ์ในลีกสูงสุดของ โปรตุเกส และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
ก่อนหน้านั้น ลินเดเลิฟ ก้าวสู่ทีมชุดใหญ่ของ วาสเตราส ทีมในบ้านเกิดด้วยวัยเพียง 16 ปีและเป็นคีย์แมนพาทีมเลื่อนชั้นได้ ก่อนจะย้ายซบตัก เบนฟิกา ในปี 2012 ให้หลังจากเจ้าตัวโชว์ฝีเท้าในทีมชาติ สวีเดน ชุดยู-16 และ 17 ปีตามลำดับ
ด้วยวัยเพียง 17 ปี ลินเดเลิฟ รอโอกาสและเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับทีมบี ก่อนที่จะกลายเป็นหนึ่งในกองหลังดาวรุ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดของยุโรปกับทีมชุดใหญ่ในเวลานั้น กระทั่งในเวลาต่อมา การคว้าแชมป์กลายเป็นเรื่องปกติในช่วงเวลาที่เขาค้าแข้งกับ เหยี่ยวลิสบอน โดยคว้าโทรฟีลีก 3 สมัย, โปรตุเกสคัพ 2 สมัย, ลีกคัพ 1 สมัย และซูเปอร์คัพ 1 สมัย รวมไปถึงสถานะเจ้ายุโรปรุ่น ยู-21 กับทีมชาติ สวีเดน
ในปี 2017 ลินเดเลิฟ เซ็นสัญญาเป็นเวลา 4 ปีกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมตัวเลือกต่ออีกหนึ่งปี เขาลงเล่นไป 29 นัดในฤดูกาลแรกในอังกฤษ และมีผลงานที่น่าประทับใจหลายครั้งในช่วงปลายฤดูกาล รวมถึงการเป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ กับอาร์เซนอล ในเดือนเมษายน
หลังพาทีมชาติ สวีเดน เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของศึก ฟุตบอลโลก 2018 เขาพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องในฤดูกาล 2018/19 รักษาฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอ ส่งผลให้ ลินเดเลิฟ กลายเป็นที่รักของเหล่าแฟนบอล ปีศาจแดง ผลงานอันยอดเยี่ยมของเจ้าตัวทำให้เขาได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนพฤศจิกายนของสโมสร นอกจากนี้ เขายังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสวีเดน ในงานประกาศรางวัลที่ สตอกโฮล์ม
สองเดือนต่อมา เขาทำประตูแรกในยูนิฟอร์ม เร้ดเดวิลส์ ได้ โดยยิงตีเสมอ เบิร์นลีย์ ในครึ่งหลัง อาการบาดเจ็บที่ขาหนีบกลายเป็นปัญหาของเขาในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล แต่ ลินเดเลิฟ ยังคงเป็นหนึ่งในแข้งเด่นที่สุดของทีมของฤดูกาลนั้น เขาได้รับการลงคะแนนให้เป็นแข้งยอดเยี่ยมแห่งปีเป็นอันดับที่ 2 รองจาก ลุค ชอว์ และคว้ารางวัลเซอร์แมตต์ บัสบี้ เพลเยอร์ ออฟ เดอะ เยียร์
ในฤดูกาล 2019/20 นักเตะชาวสวีเดนลงเล่น 35 นัดในพรีเมียร์ลีก ประสานงานกับกัปตันทีม แฮร์รี แม็คไกวร์ พาทีมจบซีซันด้วยอันดับที่ 3 ของตารางคะแนน คว้าตั๋วเข้าไปโม่แข้งในรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เจ้าตัวมีชื่อซัด 2 ประตูในเดือนธันวาคม 2019 ซัดใส่ แอสตัน วิลล่า พาทีมเสมอกับทัพ สิงห์ผยอง 2-2 ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก่อนจะพาทีมจบซีซันด้วยตำแหน่งรองแชมป์และกรุยทางถึงนัดชิงชนะเลิศของรายการ ยูฟ่า ยูโรปาลีก
ซีซัน 2021/22 เขาเป็นตัวเลือกในตำแหน่งปราการหลังตัวกลางลำดับต้นๆ ของทีมคู่กับ แม็คไกวร์ และ ราฟาเอล วาราน ทั้งภายใต้การคุมทีมของ โอเล กุนนาร์ โซลชา และ ราล์ฟ รังนิก ลงเล่นให้กับทีมทั้งสิ้น 35 นัดเมื่อรวมทุกรายการ
ขณะที่ฤดูกาล 2022/23 เจ้าตัวลงเล่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งสิ้น 35 นัดเช่นกัน โดย 20 เกมในนั้นเป็นการลงสนามใน พรีเมียร์ลีก คว้าตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก จากการจบอันดับ 3 บนตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก
ซีซัน 2023/24 ลินเดเลิฟ เป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ กับชัยชนะเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้