นิโก้ โอ’รีลลี่ย์ ยิงประตูได้อีกครั้งในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกคว้าชัยช่วงท้ายเกมจาก เอฟเวอร์ตัน ในแมตช์เยือนนัดสุดท้ายที่สนาม กูดิสัน พาร์ค
ในเกมที่ไม่ได้มีจังหวะน่าตื่นเต้นมากนัก โอ’รีลลี่ย์ พังประตูเบิกร่องในช่วง 10 นาทีสุดท้าย จากลูกเปิดเข้ากลางของ มาเธอุส นูเนส ซึ่งเป็นฟูลแบ็กด้วยกัน
ก่อนที่ มาเตโอ โควาซิช จะยิงปิดกล่องในช่วงทดเจ็บ ด้วยการซัดเรียดจากหน้ากรอบเขตโทษ หลังจากได้รับบอลจากการตั้งของ อิลคาย กุนโดกัน
ผลการแข่งขันในเกมที่ แอสตัน วิลล่า ถล่ม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 4-1 ส่งผลให้ เรือใบสีฟ้า ตามหลัง สาลิกาดง เพียงแต้มเดียวในอันดับ 3 และนำหน้า วิลล่า ที่จะมาเยือน เอติฮัด สเตเดียม คืนวันอังคารนี้อยู่หนึ่งคะแนนเช่นกัน
ต่อไปนี้คือ 3 บทเรียนสำคัญจากชัยชนะของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมนี้:
กุนโดกัน ยังมีบทบาทสำคัญในฤดูกาลหน้า
อิลคาย กุนโดกัน คือหนึ่งในนักเตะที่โดดเด่นที่สุดในสนาม และกำลังคืนฟอร์มเก่งที่เคยพาทีมคว้าแชมป์มาแล้วหลายรายการ
แม้ในฤดูกาลนี้เขาจะยังไม่สามารถเล่นในบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับได้ดีนัก เพราะเสียพละกำลังในการไล่บอล และเปิดช่องให้คู่แข่งโต้กลับหลายครั้ง แต่เมื่อจับคู่กับ นิโก้ กอนซาเลซ ในแดนกลาง เขากลับดูคล่องแคล่วและมั่นใจขึ้นอีกครั้ง แม้ตอนที่แอสซิสต์ประตูใส่ เอฟเวอร์ตัน นั้น นิโก้ จะโดนเปลี่ยนตัวออกไปแล้วก็ตาม
สถานการณ์เดียวกันนี้ยังใช้ได้กับ โควาซิช ซึ่งดูมีชีวิตชีวาขึ้นมากเมื่อถูกขยับไปเล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกเบอร์ 8 แถมยังโชว์ฟอร์มเด่นในเกมกับ คริสตัล พาเลซ และอีกครั้งในนัดนี้ โดยมี มานูเอล อคานจี คอยคุมเกมรับอยู่ด้านหลัง
แม้ชื่อของ กุนโดกัน จะมีข่าวลือเรื่องการย้ายทีมอยู่เสมอ แต่ในเมื่อเขายังทำผลงานดี ได้รับความไว้วางใจจาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และยังเป็นผู้นำในห้องแต่งตัว การปล่อยตัวเขาออกจากทีมโดยไม่จำเป็นคงเป็นเรื่องน่าเสียดาย
โอ’รีลลี่ย์ อาจช่วยประหยัดงบซื้อนักเตะ
เมื่อได้เห็นฟอร์มของ โอ’รีลลี่ย์ ในตำแหน่งแบ็กซ้าย รวมถึงผลงานของ โยชโก้ กวาร์ดิโอล ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ ก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเปลี่ยนตำแหน่งเขาให้เร็วกว่านี้ ผลลัพธ์ของฤดูกาลอาจเปลี่ยนไป
นับตั้งแต่ถูกเปลี่ยนลงมาในครึ่งหลังของเกม เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศกับ บอร์นมัธ เขาก็โชว์ฟอร์มเด่นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่ได้เล่นในตำแหน่งถนัดก็ตาม
ตอนนี้เขาคือหนึ่งในตัวเลือกที่ไว้ใจได้ในตำแหน่งแบ็กซ้าย และยังสามารถเล่นในแดนกลางได้อีกด้วย ซึ่งอาจทำให้ทีมไม่จำเป็นต้องทุ่มงบซื้อนักเตะใหม่ในซัมเมอร์นี้
แม้จะมีชื่อของ เดสตินี่ อูโดกี้ และ อันเดรีย กัมเบียโซ่ โผล่มาในตลาดนักเตะ แต่ดูเหมือนว่าทีมอาจเซ็นสัญญาเพียงคนเดียว ก็ต่อเมื่อ นาธาน อาเก้ อำลาทีมไป
ส่วน กัมเบียโซ่ อาจถูกดึงเข้ามาเพื่อเป็นตัวเลือกทางฝั่งขวา ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าแผงหลังฝั่งซ้ายของ ซิตี้ จะมีตัวเลือกมากกว่าที่คาดไว้ตอนแรก
โดกู คือตัวเปลี่ยนเกมชั้นยอด
เจเรมี่ โดกู พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า แม้เขาจะยังไม่ใช่นักเตะที่สมบูรณ์แบบ แต่สิ่งที่เขาทำได้ดีนั้นจัดอยู่ในระดับแถวหน้า
เขาสร้างปัญหาให้กับแนวรับของคู่แข่งได้เสมอ ด้วยความเร็ว ความแข็งแกร่ง และการลากเลื้อยอย่างมั่นใจ โดยเฉพาะในช่วง 10 นาทีสุดท้ายที่เขาลงสนาม เจค โอไบรอัน ถูกเจาะทางฝั่งของเขาแทบทุกจังหวะ
ฟอร์มของเขายังดูโดดเด่นกว่า ซาวินโญ่ ซึ่งยังขาดความเฉียบคมในการจบสกอร์และจังหวะสุดท้าย
แม้ โดกู เองก็ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุงเหมือนกัน แต่เขาก็มีส่วนร่วมสำคัญกับประตูที่สอง และสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับทีมทันทีที่ลงสนาม
นี่น่าจะเป็นบทบาทที่ดีที่สุดของเขา – การลงมาเปลี่ยนจังหวะของเกมจากม้านั่งสำรอง สร้างความสดใหม่ในช่วงเวลาสั้น ๆ แทนที่จะออกสตาร์ตเป็นตัวจริง
หากเขายังพัฒนาได้ต่อเนื่อง และแก้ไขจุดอ่อนได้ในอนาคต มีโอกาสไม่น้อยที่เขาจะยึดตัวจริงถาวรในถิ่น เอติฮัด สเตเดียม และสร้างเส้นทางอาชีพที่น่าจดจำกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้