ทีมชาติโปรตุเกส กำลังตกเป็นฝ่ายตามหลัง เดนมาร์ก 0-1 ในเกม ยูฟ่า เนชันส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่สอง ซึ่งจะลงสนามในวันอาทิตย์นี้ โดยก่อนเกม คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ตอบโต้คำถามจากสื่ออย่างดุเดือด
หลังถูกถามเรื่องอายุและสภาพร่างกาย ซึ่งเขามองว่าเป็นคำถามที่ “ไม่ให้เกียรติ”
โรนัลโด้ ไม่พอใจสื่อ หลังถูกตั้งคำถามเรื่องฟอร์มการเล่น
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แสดงความไม่พอใจต่อผู้สื่อข่าวที่ตั้งคำถามเกี่ยวกับฟอร์มการเล่นของเขาก่อนเกมพบ เดนมาร์ก ในนัดที่สองของรอบก่อนรองชนะเลิศ ยูฟ่า เนชันส์ ลีก
ในเกมนัดแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โปรตุเกส เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ 0-1 จากประตูของ ราสมุส ฮอยลุนด์ ดาวยิงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้ทีมต้องพยายามอย่างหนักเพื่อกลับมาในเกมนัดที่สอง
อย่างไรก็ตาม ฟอร์มของ โรนัลโด้ กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเฉพาะในเกมกับ เดนมาร์ก ที่เขาไม่สามารถยิงตรงกรอบได้เลย และยังเลี้ยงผ่านคู่แข่งหรือเปิดบอลสำเร็จไม่ได้แม้แต่ครั้งเดียว
บรรดานักข่าวที่ร่วมงานแถลงข่าวก่อนเกม ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับความสามารถของ โรนัลโด้ ว่าเขายังเล่นในระดับสูงสุดไหวหรือไม่ หลังจากเพิ่งฉลองวันเกิดครบ 40 ปีไปไม่นาน
อดีตสตาร์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แสดงความไม่พอใจต่อแนวทางการตั้งคำถามของสื่อ พร้อมกล่าวหาว่าบางคน “ขาดความเคารพ” และถึงขั้นบอกให้ผู้สื่อข่าว “มองตาเขา” เวลาถามคำถาม
“ผมรู้สึกว่ามีแต่พลังงานด้านลบรายล้อมทีมชาติ” กัปตันทีมชาติโปรตุเกส กล่าว
“ผมดูงานแถลงข่าวช่วงหลายวันที่ผ่านมาแล้ว ผมไม่ชอบสิ่งที่เห็นเลย ไม่ชอบจริงๆ”
“พูดตรงๆ นะ คำถามบางคำถามของพวกคุณ มันไม่ให้เกียรติกันเลย ถ้าคุณต้องการคำตอบจากผม ให้มองหน้าผมเวลาถาม ไม่มีประโยชน์หรอกที่จะถามผมแล้วก้มมองคอมพิวเตอร์ของคุณ คุณมีเวลาเช็กมันทีหลัง ถ้าจำเป็น ผมจะพูดซ้ำสิบครั้งก็ได้”
โรนัลโด้ยังคงเป็นตำนานของโปรตุเกส แม้ถูกตั้งคำถาม
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยลงเล่นให้ โปรตุเกส หลังจากทำลายสถิติมากมายกับทีมชาติ เขาถือครองสถิติลงเล่นมากที่สุดที่ 218 นัด และยิงประตูมากที่สุดที่ 135 ลูก นอกจากนี้ ยังเป็นนักเตะอายุมากที่สุดที่ทำประตูให้ทีมชาติ และเป็นเจ้าของสถิติแฮตทริกมากที่สุด รวมถึงยิงประตูได้มากที่สุดในศึก ยูโร
เขามีส่วนสำคัญในการพา โปรตุเกส คว้าแชมป์ ยูโร 2016 และ ยูฟ่า เนชันส์ ลีก สมัยแรก
ในงานแถลงข่าว เขายอมรับว่า ทีมอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนัก เพราะต้องพยายามพลิกสถานการณ์จากที่ตามหลัง 0-1 เพื่อเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ พร้อมกับเรียกร้องให้แฟนบอลช่วยส่งกำลังใจให้ทีม
“บรรยากาศมันตึงเครียดขึ้น ผมไม่ปฏิเสธหรอก เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่กดดัน เพราะเราจำเป็นต้องชนะ แต่นั่นแหละคือเสน่ห์ของฟุตบอล”
“พรุ่งนี้ ผมอยากขอให้แฟนๆ อยู่เคียงข้างเรา ส่งพลังให้เรา เพราะเราจะพยายามทำให้ดีที่สุด”
“เราไม่มีทางเลือกอื่นใด ใครก็ตามที่ภาคภูมิใจที่ได้สวมเสื้อตัวนี้ ต้องมีความทะเยอทะยานแบบนี้ ผมเคยแพ้ใน 90 นาทีมาแล้ว แต่ผมไม่เคยแพ้ตั้งแต่ครึ่งแรก พรุ่งนี้มันคือครึ่งหลังของเรา”
“มันเป็นเกมแบบนั้น บางครั้งก็มีวันที่แย่ ผมเล่นแย่ ทีมก็เล่นแย่ แต่นั่นคือส่วนหนึ่งของชีวิต พรุ่งนี้ผมอยากเดินออกจาก สนามอัลวาลาด ด้วยความภาคภูมิใจ หากคนโปรตุเกสทุกคนยังอยู่เคียงข้างเรา”