อเล็กซ์ มาร์เกซ นักบิดหมายเลขสองของตารางคะแนนรวม MotoGP เจอกับการแข่งขันที่ยากลำบากตั้งแต่เริ่มต้นในรายการ Qatar Grand Prix
นักบิดทีม BK8 Gresini มีจังหวะปะทะครั้งแรกในโค้งแรกกับพี่ชาย มาร์ค มาร์เกซ ซึ่ง มาร์ค เองก็ไม่ได้ถือโทษโกรธ จากนั้นก็มีจังหวะปะทะกับ ดิ จานนันโตนิโอ ซึ่งเป็นความผิดของ อเล็กซ์ อย่างชัดเจน ส่งผลให้ทั้งคู่ออกนอกสนามและ อเล็กซ์ โดนลงโทษปรับให้วิ่ง Long Lap หนึ่งรอบ สุดท้ายเขาจบในอันดับที่เจ็ด ซึ่งเป็นการไม่ใช่อันดับสองครั้งแรกของเขาในฤดูกาล 2025
Una pena el golpe de Álex Márquez a DiGia, como es costumbre en Álex. pic.twitter.com/b6DbiriSAQ
— MotoGPLibre (@gp_libre) April 13, 2025
นี่คือสิ่งที่เขาอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น: “ผมออกสตาร์ทได้ดี เข้าถึงโค้งแรกได้ดี พยายามเข้าด้านใน ปิดไลน์ เพราะผมรู้ว่าต้องทำอย่างไรในโค้งแรกๆ ผมเพิ่งคุยกับ มาร์ค และเขาก็บอกว่า ‘มันเป็นความผิดของผมเอง ผมเสียอาการด้านหลังนิดหน่อยแล้วต้องผ่อนคันเร่ง’ ผมมองเขา ผมรู้สึกเหมือนเขากำลังเร่งเครื่อง แล้วผมก็เร่งเครื่องตาม เขาก็ขอโทษ แต่เป็นเรื่องเล็กน้อยมากกว่าปัญหาใหญ่”
เกี่ยวกับรอยแตกที่เกิดขึ้นกับ Ducati ของ มาร์ค: “รถด้านหลังของเขาแตก แต่ตรงนั้นมีผลกระทบไม่มากนัก จากนั้นก็จริงที่เขาชะลอความเร็วในช่วงนั้นเพื่อดูแลและวอร์มอัพยางให้เข้าอุณหภูมิ ผมตัดสินใจว่านั่นคือกลยุทธ์ แต่คนที่อยู่ข้างหลังเห็นได้ชัดว่าต้องการโจมตี แล้วในรอบที่ 3 ‘ดิ จาน’ ก็แซงผมในโค้ง 10 แล้วผมพยายามจะแซงคืนในโค้ง 12 มันไม่ใช่เวลาและไม่ใช่ที่ ผมทำผิดพลาดซึ่งผมยอมรับ ผมยอมรับ Long Lap และยอมรับทุกคำวิจารณ์ที่จะมีต่อผม เพราะเมื่อคุณทำผิดพลาด คุณก็ทำอะไรไม่ได้และต้องยอมรับมัน ผมวิ่ง Long Lap แล้วไปอยู่หลังกลุ่มที่มีนักแข่งสี่ห้าคน ค่อยๆ แซงขึ้นมาโดยไม่ตื่นตระหนก จากนั้นผมก็อยู่โดดเดี่ยว มีกลุ่มสามคนอยู่ข้างหน้า ผมสามารถทำเวลา 52 วินาทีช่วงปลายได้ซึ่งก็ไม่เลว แล้วก็แค่นั้นแหละ ผมเข้าเส้นชัยอันดับที่เจ็ด ซึ่งเป็นคะแนนสำคัญสำหรับการชิงแชมป์ สุดท้ายกลายเป็นอันดับที่หกเพราะ มาเวอริค โดนปรับโทษ และเขาลำบากใจที่จะพูดถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นถ้าเขาไม่โดนลงโทษ: “ศักยภาพ… พวกเราอยู่อันดับสองบนกริด และเมื่อคุณอยู่อันดับสอง คุณมีโอกาสมากมายที่จะขึ้นโพเดียม โดยเฉพาะหลังจาก Sprint เมื่อวานนี้ ถ้า Sprint มันแย่ ผมคงบอกว่า ‘ไม่ เรายังไม่พร้อมสำหรับโพเดียม’ พวกเราพร้อมสำหรับโพเดียม แต่มันไม่เป็นแบบนั้น จากนั้นก็จริงที่ผมมีความเร็ว มีศักยภาพมากพอสมควร และผมก็จะเก็บสิ่งนั้นไว้แค่นั้นเอง เสียดายที่พลาดโอกาสขึ้นโพเดียม แต่พวกเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”
และเกี่ยวกับว่าเขาได้คุยกับ ดิ จานนันโตนิโอ หลังเกิดเหตุหรือไม่: “ไม่ ผมพยายามแล้ว แต่พวกเขาบอกว่ายังไม่ถึงเวลา ผมเข้าใจดี และแค่นั้นแหละ”