ข่าวล่าสุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เผยว่า ตำนานของสโมสรอย่าง เอริก คันโตน่า ออกมาแสดงความเห็นอย่างหนักแน่นต่อสถานการณ์เบื้องหลังของทีมที่สนาม โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยไม่มีการอ้อมค้อมใด ๆ
เอริก คันโตน่า อดีตดาวดังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ย้ำชัดถึงจุดยืนของเขาเกี่ยวกับเจ้าของทีมในปัจจุบัน และไม่พอใจอย่างยิ่งต่อความเป็นไปได้ที่สโมสรจะย้ายสนามเหย้าจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด
อดีตแข้งชาวฝรั่งเศสยังพูดถึง เซอร์ จิม แรตคลิฟฟ์ ผู้ถือหุ้นส่วนน้อยอย่างดุเดือด โดยกล่าวหาว่าเขาได้ “ทำลาย” สโมสรนับตั้งแต่เข้ามามีบทบาทตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
“ตั้งแต่ แรตคลิฟฟ์ เข้ามา บอร์ดบริหารชุดนี้พยายามทำลายทุกอย่าง พวกเขาไม่เคารพใครเลย” คันโตน่า กล่าวกับผู้สื่อข่าวในงานที่จัดขึ้นโดยสโมสรระดับสมัครเล่น เอฟซี ยูไนเต็ด แห่งแมนเชสเตอร์
“พวกเขายังถึงขั้นอยากจะเปลี่ยนสนามเหย้า ความเป็นวิญญาณของทีมและสโมสรไม่ได้อยู่แค่ในนักเตะ ผู้คนรอบตัวคือครอบครัวใหญ่ และผมคิดว่ามันสำคัญมากที่จะให้ความเคารพกับคนเหล่านี้เหมือนกับที่เคารพโค้ชและเพื่อนร่วมทีม”
“ตั้งแต่ แรตคลิฟฟ์ เข้ามา ทุกอย่างกลับตรงกันข้าม เขาไม่ต้องการให้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เป็นทูตของสโมสรอีกต่อไป ทั้งที่เขาคือมากกว่าตำนาน และเราควรหาวิญญาณของทีมกลับคืนมาให้ได้”
“บอร์ดบริหารชุดนี้พยายามทำลายทุกสิ่ง พวกเขาไม่เคารพใครแม้แต่น้อย ถึงขั้นจะเปลี่ยนสนามที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของทีม”
“สำหรับผม อาร์เซน่อล สูญเสียจิตวิญญาณไปเมื่อพวกเขาย้ายออกจากสนาม ไฮบิวรี่ และผมมั่นใจว่าแฟนบอลจำนวนมากยังคิดถึงสนามนั้นอยู่”
“ลองจินตนาการดูว่า ลิเวอร์พูล เล่นในสนามอื่นที่ไม่ใช่ แอนฟิลด์ สิ เป็นไปไม่ได้เลย ผมไม่คิดว่า ยูไนเต็ด จะเล่นในสนามอื่นที่ไม่ใช่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้เช่นกัน”
คำวิจารณ์ต่อ แรตคลิฟฟ์ และเจ้าของสโมสรชุดนี้เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากที่เขากลายเป็นเจ้าของร่วมของ เอฟซี ยูไนเต็ด แห่งแมนเชสเตอร์ ซึ่งในขณะนั้น คันโตน่า ยังเสนอแนวคิดเรื่องโมเดลการถือหุ้นโดยแฟนบอลในสโมสรแม่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วย ซึ่งสะท้อนความไม่พอใจต่อครอบครัว เกลเซอร์ อย่างชัดเจน
“ใช่ บางทีอาจถึงเวลาที่พวกเขาควรจะไปได้แล้ว” เขากล่าว “ผมยังมีแนวคิดหนึ่งด้วย สโมสรนี้มีแฟนบอลนับแสนบนโซเชียลมีเดีย ถ้าพวกเขาสร้างแอปพลิเคชันขึ้นมาวันนี้ แล้วประกาศว่าขายหุ้น 50% ของสโมสร ทำไมจะต้องมีแค่คนรวยไม่กี่คนที่ลงทุน 500 ล้านปอนด์?”
“ในทางกลับกัน คุณสามารถมีคนจำนวนมหาศาลที่ร่วมกันซื้อหุ้น ด้วยเงิน 10 ยูโร 20 ยูโร 100 ยูโร หรือ 1,000 ยูโร และกลายเป็นเจ้าของครึ่งหนึ่งของสโมสรโดยแท้จริง ซึ่งก็คือแฟนบอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จริง ๆ”
“ในยุคโซเชียลมีเดีย ทุกอย่างทำได้ทันที แต่พวกเขากลับไม่ต้องการให้ผมเป็นประธานของสโมสร! พวกเขาไม่ต้องการผม! ทั้งที่ผมเดินทางไปยังเมืองแมนเชสเตอร์ด้วยตัวเอง เพื่อให้พวกเขามีโอกาสประสบความสำเร็จในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า และพวกเขากลับไม่สนใจเลย”