กุนซือของ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้เปิดใจถึงการตัดสินใจของ เจมี่ วาร์ดี้ ที่จะอำลาถิ่น คิง เพาเวอร์ สเตเดียม หลังรับใช้สโมสรมายาวนานถึง 13 ปี พร้อมแง้มเป้าหมายของทีมในอีก 5 นัดสุดท้าย
เจมี่ วาร์ดี้ ได้เปิดเผยการตัดสินใจครั้งสำคัญกับ รุด ฟาน นิสเตลรอย ผ่านบทสนทนาอันอบอุ่นเป็นเวลา 45 นาที โดยหวังว่าเพื่อนร่วมทีมจะได้รับแรงบันดาลใจในการมอบการอำลาที่สมเกียรติให้กับเขา
ตลอดระยะเวลากว่า 13 ปีในสีเสื้อของ เลสเตอร์ ซิตี้ ดาวยิงรายนี้ได้กลายเป็นนักเตะผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร ทั้งจากผลงานการทำประตูและความสำเร็จในถ้วยรางวัลมากมาย
ก่อนที่จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการ วาร์ดี้ ได้เข้าพูดคุยกับ ฟาน นิสเตลรอย เกี่ยวกับเส้นทางอาชีพของเขาในถิ่น คิง เพาเวอร์ สเตเดียม และเส้นทางลูกหนังทั้งหมดของเขา
“บทสนทนาที่ผมมีกับเขานั้นช่างพิเศษจริง ๆ” ฟาน นิสเตลรอย กล่าว “เขาเข้ามาหาผมที่ห้องทำงาน และบอกถึงการตัดสินใจของเขา เราคุยกันหลากหลายเรื่องอยู่นานเกือบชั่วโมง”
“มันเป็นการพูดคุยที่ยอดเยี่ยมและน่าประทับใจ เหมือนกับอาชีพของเขา ความรักที่เขามีต่อสโมสรนี้สะท้อนออกมาทุกคำที่เขาพูด”
“เราคุยถึงช่วงเวลาที่เขาอยู่กับ ฟลีทวูด ทาวน์ และก่อนหน้านั้นด้วย เมื่อเขาย้ายมา เลสเตอร์ เขารู้สึกถึงแรงสนับสนุนจากแฟนบอลตั้งแต่แรกเริ่ม”
“ตลอด 13 ปีที่ลงเล่นให้สโมสร มีทั้งช่วงเวลาที่ดีและเลวร้าย แต่สิ่งที่โดดเด่นคือความภักดีต่อทีม เขาทุ่มเททุกอย่าง วิ่งไม่มีหมด ใช้สัญชาตญาณในการเล่น และไม่เคยยอมแพ้”
“มันคือเรื่องราวที่ไม่ธรรมดา ทั้งชีวิตค้าแข้งของเขา และตลอดช่วงเวลากับ เลสเตอร์ ซิตี้ ทั้งการเล่นในยุโรป ทั้งทุกความสำเร็จและอุปสรรค เขาคือคนที่หาได้ยากในวงการฟุตบอล”
“ต้องพูดว่า เขาคือนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลของสโมสร ทั้งจำนวนเกมที่ใกล้จะครบ 500 นัด และการทำประตูที่กำลังจะถึง 200 ประตู ตัวเลขเหล่านี้พูดแทนทุกอย่าง เมื่อรวมกับถ้วยรางวัลแล้ว มันคือภาพที่สมบูรณ์”
สิ่งที่ยังไม่ได้เปิดเผยคือจุดหมายปลายทางต่อไปของเขา และเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจครั้งนี้
ฟาน นิสเตลรอย กล่าวเพิ่มเติมว่า “เขาแจ้งผมเรื่องการตัดสินใจแล้ว และผมรู้ดีว่ามันไม่ใช่การตัดสินใจที่ง่าย มันถึงเวลาที่เขาต้องก้าวต่อไป แม้ผมจะไม่รู้เหตุผลเบื้องลึกก็ตาม”
“เราคุยกันถึงก้าวต่อไป มันยังเปิดกว้างสำหรับเขา ตอนนี้คือช่วงเวลาที่เขาจะไตร่ตรองร่วมกับครอบครัวว่าเส้นทางไหนคือสิ่งที่เขาต้องการในช่วงปลายของอาชีพ”
“เขาได้ทุกอย่างที่เขาต้องการแล้ว ตอนนี้คือเวลาที่เขาจะสนุกกับช่วงเวลาสุดท้ายของการค้าแข้งอย่างเต็มที่ ร่วมกับครอบครัวที่เขารัก”
“สำหรับผู้จัดการทีมคนต่อไปของเขา บอกได้เลยว่าเขาเป็นหนึ่งในคนที่เปิดเผยและซื่อตรงที่สุดที่ผมเคยเจอ เขามักพูดในสิ่งที่เขาเชื่อว่าดีที่สุดเพื่อทีม และไม่ใช่นักเตะที่บริหารยากเลย”