ท็อตแนมฮ็อตสเปอร์

เลวี่ กล่าวว่าสเปอร์สต้องใช้เงินอย่าง ‘ฉลาดมากว่านี้เพื่ออนาคต’

แดเนียล เลวี่ ประธานสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ กล่าวว่านโยบายการใช้จ่ายของสโมสรในตลาดซื้อขายนักเตะจะต้องเป็นไปอย่าง “ยั่งยืน” และ “ฉลาด” หลังจากผลประกอบการล่าสุดแสดงให้เห็นว่ารายได้ของสโมสรลดลง

สำหรับปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2024 รายได้รวมของ สเปอร์ส ลดลง 4% จาก 549.6 ล้านปอนด์ในปีก่อนหน้า เหลือ 528.2 ล้านปอนด์ โดยภาพรวม สเปอร์ส สามารถลดการขาดทุนหลังหักภาษีในปี 2024 ลงเหลือ 26.2 ล้านปอนด์ เทียบกับปี 2023 ที่ขาดทุนถึง 86.8 ล้านปอนด์

แฟนบอล ท็อตแน่ม ได้ออกมาประท้วงต่อต้าน เลวี่ และกลุ่มเจ้าของสโมสร อีนิค เกี่ยวกับแนวทางการบริหารสโมสร โดยเฉพาะเรื่องที่แฟนบอลมองว่าทีมขาดการลงทุนในขุมกำลังนักเตะ เลวี่ กล่าวในหมายเหตุประกอบผลประกอบการว่า เขามักจะเห็นเสียงเรียกร้องให้สโมสรใช้จ่ายมากขึ้น เนื่องจาก สเปอร์ส ถูกจัดอันดับให้เป็น “สโมสรที่ร่ำรวยที่สุดอันดับ 9 ของโลก”


แต่เขาย้ำว่าการใช้จ่ายของ ท็อตแน่ม “ต้องเป็นไปอย่างยั่งยืนในระยะยาว”

“เราจะไม่ใช้เงินเกินกว่าที่เรามี และเราจะไม่ยอมให้ความมั่นคงทางการเงินของสโมสรตกอยู่ในความเสี่ยง” เลวี่ กล่าว

“การเสริมทัพยังคงเป็นหัวใจสำคัญ และเราต้องแน่ใจว่าการซื้อนักเตะของเราจะเป็นไปอย่างฉลาดภายในขอบเขตทางการเงินของเรา ความสามารถในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องจะเป็นตัวกำหนดขีดความสามารถในการใช้จ่ายของเรา”


สโมสรได้รับรายได้จากลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดเพิ่มขึ้นเป็น 165.9 ล้านปอนด์ในปีที่ผ่านมา เทียบกับ 148.1 ล้านปอนด์ในปี 2023 อย่างไรก็ตาม พวกเขาได้รับเงินรางวัลจาก ยูฟ่า เพียง 1.3 ล้านปอนด์ในปี 2024 ซึ่งลดลงอย่างมากจาก 56.2 ล้านปอนด์ในปีก่อนหน้า อันเนื่องมาจากการไม่ได้เข้าร่วมแข่งขันใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก

ค่าใช้จ่ายดำเนินงานของ ท็อตแน่ม (ไม่รวมการซื้อขายนักเตะ) ลดลง 7% เหลือ 453.6 ล้านปอนด์ (ปี 2023 อยู่ที่ 487.9 ล้านปอนด์) โดยมีสาเหตุมาจาก “จำนวนนัดแข่งขันและอีเวนต์จากบุคคลที่สามที่ลดลง”


รายได้จากค่าตั๋วเข้าชมการแข่งขันลดลงจาก 117.6 ล้านปอนด์ เหลือ 105.8 ล้านปอนด์ เนื่องจากจำนวนนัดแข่งขันลดลง 9 เกม หนี้สินสุทธิของ สเปอร์ส เพิ่มขึ้นเป็น 772.5 ล้านปอนด์ในปี 2024 เมื่อเทียบกับ 677.4 ล้านปอนด์ในปีก่อน

อย่างไรก็ตาม สโมสรระบุว่าด้วยระยะเวลาผ่อนชำระหนี้เฉลี่ยที่ 18.6 ปี หนี้สินเหล่านี้จะส่งผลกระทบ “จำกัด” ต่อความสามารถในการลงทุนในขุมกำลังนักเตะ