เรอัล มาดริด

เรอัล มาดริด ฉวยโอกาสหลัง แอตเลติโก มาดริด สะดุดในการลุ้นแชมป์ลาลีกา !!

เรอัล มาดริด ขยับขึ้นนำ แอตเลติโก มาดริด 1 แต้ม หลังจากที่คู่แข่งร่วมเมืองพลาดท่าพ่ายให้กับ เกตาเฟ่ 1-2 ขณะที่เกมของ บาร์เซโลนา กับ โอซาซูน่า ในวันเสาร์ถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากการสูญเสียแพทย์ประจำทีมของสโมสรจากแคว้นคาตาลัน

ทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ทำผลงานได้อย่างมั่นคง แม้จะไม่ใช่เกมที่หวือหวา แต่ก็เพียงพอที่จะคว้าชัยชนะเหนือคู่แข่งร่วมเมืองได้ ก่อนศึกสำคัญใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สองกับ แอตเลติโก มาดริด ในวันพุธนี้


วินิซิอุส กับ เอ็มบัปเป้ ทำสองประตูที่ยอดเยี่ยม และพวกเขายังมีโอกาสทำลูกที่สามอีกด้วย” อันเชล็อตติ กล่าว

“ครึ่งแรกพวกเราเล่นได้ดีมาก และเมื่อเข้าสู่ช่วงนาทีที่ 70 หรือ 75 นำอยู่ 2-1 สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเล่นเกมรับให้ดี เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น”


อันเชล็อตติ ตัดสินใจส่ง จู๊ด เบลลิงแฮม กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังพ้นโทษแบน แต่เลือกพัก ติโบต์ กูร์กตัวส์ และ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ เนื่องจากปัญหาหัวเข่าและอาการป่วยตามลำดับ ทั้งคู่คาดว่าจะกลับมาช่วยทีมในเกมเจอ แอตเลติโก มาดริด ซึ่ง เรอัล มาดริด ถือความได้เปรียบจากการชนะมา 2-1 ในนัดแรก


วินิซิอุส – เอ็มบัปเป้ จัดคนละตุง พา มาดริด คว้าชัย

ราโย บาเยกาโน่ ทีมอันดับ 7 ต้องขาดผู้เล่นสำคัญไปหลายคน รวมถึง ฆอร์เก้ เด ฟรูโตส และ อิซี่ ปาลาซอน แต่พวกเขายังทำผลงานได้ดีและสร้างปัญหาให้ เรอัล มาดริด วินิซิอุส มีโอกาสยิงไปชนเสาตั้งแต่ช่วงต้นเกม ขณะที่ ราโย ตอบโต้ด้วยการลุ้นทำประตูจาก อันเดร ราติอู และ เคราร์ด กุมเบา ก่อนที่ เรอัล มาดริด จะเป็นฝ่ายออกนำ

เอ็มบัปเป้ ซึ่งก่อนหน้านี้ทำประตูไม่ได้สองนัดติด รับบอลจาก วินิซิอุส ก่อนลากผ่าน ฟลอริย็อง เลอเฌิน แล้วซัดบอลเข้าประตูไป ถัดมาเพียง 4 นาที วินิซิอุส ก็ซัดลูกที่สองของเกม หลังจากที่เขาเคยยิงพลาดในเกมพบ แอตเลติโก มาดริด กลางสัปดาห์ โดยคราวนี้เจ้าตัวใช้สเต็ปโอเวอร์สองจังหวะหลอก ราติอู ก่อนยิงเข้าไปอย่างเฉียบขาด

เอ็มบัปเป้ มีโอกาสทำประตูที่สามหรือจ่ายให้ วินิซิอุส แต่เลือกยิงเองและถูก ออกุสโต้ บาตายา เซฟเอาไว้ ราโย ไล่ตีตื้นก่อนหมดครึ่งแรกจากการยิงไกลของ ดิอาซ บอลพุ่งไปชนคานด้านล่าง ข้ามเส้นเข้าไป ก่อนเด้งกลับขึ้นมาอีกครั้ง และหลังจากตรวจสอบ VAR ผู้ตัดสินยืนยันให้เป็นประตู

ครึ่งหลัง เรอัล มาดริด มีโอกาสเพิ่มประตู โดยเฉพาะจาก เอ็มบัปเป้ และ วินิซิอุส แต่การตัดสินใจในจังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบคมพอ อันเชล็อตติ ตัดสินใจถอด โรดรีโก้, เอ็มบัปเป้ และ เบลลิงแฮม ออกจากสนาม เพื่อรักษาความสดก่อนเกมใหญ่กับ แอตเลติโก มาดริด

“ผมให้ เอ็มบัปเป้ กับ โรดรีโก้ พักบ้าง ซึ่งจะเป็นผลดีสำหรับพวกเขาในวันพุธ” อันเชล็อตติ กล่าว


แอตเลติโก มาดริด พลาดท่าถูก เกตาเฟ่ แซงท้ายเกม

แอตเลติโก มาดริด ที่ตอนแรกดูเหมือนจะเก็บชัยชนะได้ กลับพลาดท่าหลัง อังเคล คอร์เรอา โดนใบแดงในช่วงท้ายเกม ทีมของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ มีโอกาสขึ้นจ่าฝูงหากเก็บสามแต้มได้ และพวกเขาก็ออกนำจากจุดโทษของ อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ ในนาทีที่ 75

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ คอร์เรอา โดนใบแดง เกตาเฟ่ ฉวยโอกาสยิงสองประตูรวดจาก เมาโร อรัมบาร์รี คว้าชัยไปแบบสุดช็อก


“พอเรามีผู้เล่นน้อยกว่า เกมก็หลุดมือไป” ปาโบล บาร์ริออส กองกลางของ แอตเลติโก มาดริด กล่าวกับ DAZN

“(หลังจากนำ 1-0) เราถอยไปตั้งรับมากเกินไป และเมื่อโดนใบแดง เราไม่สามารถคุมเกมได้”


เกตาเฟ่ ใช้แทคติกอุดแน่นเพื่อทำลายจังหวะของทีมเยือน และตลอดครึ่งแรกทั้งสองทีมแทบไม่มีโอกาสลุ้นประตูกันมากนัก


“เกมนี้ไม่มีอะไรให้ดูเลย มันไม่ใช่เกมที่น่าติดตาม” ซิเมโอเน่ ยอมรับ


โรดริโก้ เด ปอล กองกลางตัวเก่งของ แอตเลติโก มาดริด มีอาการบาดเจ็บในครึ่งแรก และถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงพักครึ่งเพื่อป้องกันไว้ก่อนเกมแชมเปียนส์ลีก ขณะที่ แกลม็องต์ ล็องเล่ต์ มีปัญหาบาดเจ็บระหว่างวอร์มอัพ และถูกเปลี่ยนออกจากรายชื่อ 11 ตัวจริง โดยส่ง โฆเซ่ คิเมเนซ ลงเล่นแทน

ซอร์ลอธ ยิงจุดโทษให้ทีมขึ้นนำหลังจากที่ โอมาร์ อัลเดเรเต้ ทำแฮนด์บอล และเป็นประตูที่ 10 ของเขาในลีกฤดูกาลนี้ เกตาเฟ่ เปิดฉากบุกแหลกหลังจาก คอร์เรอา ถูกไล่ออกในนาทีที่ 87 และไม่กี่อึดใจต่อมา อรัมบาร์รี ก็มายิงตีเสมอจากการเข้าชาร์จลูกฟรีคิกที่ถูกโหม่งเสยมาให้

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 10 นาที เกตาเฟ่ เดินหน้าเต็มสูบและก็ได้ประตูชัยจากลูกยิงไกลของ ดิเอโก้ ริโก้ ที่ อรัมบาร์รี แหย่เท้าเปลี่ยนทางเข้าไปตุงตาข่าย ส่วน แอธเลติก บิลเบา ทีมอันดับ 4 ทำได้เพียงเสมอกับ มายอร์ก้า 1-1 และตอนนี้พวกเขาตามหลัง แอตเลติโก มาดริด อยู่ 7 แต้ม