มีรายงานว่า เชลซี กำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการคว้าตัว เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์คนสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมีแนวโน้มจะย้ายออกจากถิ่น เอติฮัด สเตเดียม แบบไม่มีค่าตัวหลังจบฤดูกาลนี้
ผลงานในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลพรีเมียร์ลีกของ เชลซี ดรอปลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับช่วงต้นซีซั่น ส่งผลให้บอร์ดบริหารของทีมวางแผนเสริมทัพครั้งใหญ่ในช่วงซัมเมอร์ โดยเฉพาะในตำแหน่งกองกลางตัวสร้างสรรค์เกม ซึ่งตอนนี้มีเพียง เอ็นโซ เฟร์นานเดซ ที่โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจอย่างต่อเนื่อง
จากรายงานของ Football Insider ระบุว่า เชลซี สนใจดึงตัว เดอ บรอยน์ กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง แม้จะมีข่าวว่าเจ้าตัวได้รับความสนใจจากลีกในซาอุดิอาระเบียและสหรัฐอเมริกา แต่ดูเหมือนว่าเขายังต้องการค้าแข้งในอังกฤษต่อไป แม้จะต้องลดค่าเหนื่อยลงก็ตาม
เดอ บรอยน์ แสดงความผิดหวังที่ไม่ได้รับการติดต่อจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เกี่ยวกับการต่อสัญญา และยังเปิดทางให้กับทุกความเป็นไปได้ในอนาคต ซึ่งการกลับสู่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ อาจเป็นโอกาสที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาเคยเป็นนักเตะของ เชลซี มาก่อนเมื่อประมาณสิบปีก่อน แม้จะไม่ได้รับโอกาสมากนักในครั้งนั้น
ประสบการณ์คือสิ่งที่ เชลซี ต้องการ
เอ็นโซ มาเรสกา มีแนวโน้มที่จะได้รับความไว้วางใจให้นั่งเก้าอี้กุนซือต่อไปในฤดูกาลหน้า ซึ่งเขาเองก็น่าจะต้องการนักเตะที่มีประสบการณ์มาช่วยประคองทีม เนื่องจากนักเตะส่วนใหญ่ในชุดปัจจุบันเป็นผู้เล่นอายุน้อย การได้ร่วมงานกับ เดอ บรอยน์ ถือเป็นการเสริมแกร่งที่ยอดเยี่ยม เพราะทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาแล้วสมัยที่ มาเรสกา เป็นผู้ช่วยของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แม้จะอายุเพิ่มขึ้น แต่กองกลางชาวเบลเยียมยังคงรักษามาตรฐานระดับสูงไว้ได้ และทำผลงานได้โดดเด่นตั้งแต่ประกาศว่าจะอำลาทีมเมื่อจบฤดูกาล กวาร์ดิโอล่า เองก็ออกมากล่าวชื่นชมว่าเขาเป็นนักเตะที่ “มหัศจรรย์” หลังเกมที่ ซิตี้ เอาชนะ คริสตัล พาเลซ เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
หาก เดอ บรอยน์ ยอมลดค่าเหนื่อยตามที่เป็นข่าว การย้ายทีมในครั้งนี้ก็จะไม่กระทบโครงสร้างค่าเหนื่อยของ เชลซี มากนัก ซึ่งจะทำให้ดีลนี้เกิดขึ้นได้จริงโดยไม่มีอุปสรรคทางการเงินมากนัก
สิ่งที่น่าสนใจคือเจ้าตัวเองจะพร้อมสำหรับการหวนคืนสู่ลอนดอนหรือไม่ และหากเป็นเช่นนั้น การกลับมาในครั้งนี้อาจกลายเป็นการกลับมาที่น่าจดจำกว่าครั้งแรกแบบเทียบกันไม่ติดเลยทีเดียว