อาร์เซน่อล ต้องเผชิญกับภารกิจที่หนักอึ้งในการบุกไปเยือน ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ เลกที่สอง สัปดาห์หน้า หลังจากพ่ายแพ้คาบ้าน 0-1 โดยประตูชัยของ อุสมาน เดมเบเล่ ในเกมแรกที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เกิดขึ้นจากความผิดพลาดสำคัญหลายจุดของทัพ “ปืนใหญ่”
ประตูโทนของเกมมาจากการต่อบอลถึง 26 ครั้งอันสุดสวยของ เปแอสเช ก่อนจบด้วยการยิงของ เดมเบเล่ ในนาทีที่ 4 แต่แท้จริงแล้ว ประตูนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้ง่ายๆ หากทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ไม่พลาดพลั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดหายไปของ โธมัส ปาร์เตย์ ที่ติดโทษแบนจากใบเหลืองที่ไม่จำเป็นในเกมกับ เรอัล มาดริด รอบที่แล้ว ถือเป็นปัจจัยสำคัญ
นี่คือข้อผิดพลาดที่นำไปสู่ประตูชัยของ เดมเบเล่:
- ปล่อย เดมเบเล่ มีพื้นที่ว่าง: เปแอสเช ต่อบอลอย่างใจเย็นในแดนตัวเอง ก่อนที่ นูโน่ เมนเดส จะจ่ายบอลทะลุช่องสุดสวยจากแบ็กซ้ายเข้ากลางสนาม เป็นการจ่ายบอลที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของแบ็กซ้ายชาวโปรตุเกส และทำลายแนวเพรสซิ่งสูงของ อาร์เซน่อล เปิดทางสู่การโจมตีที่ตัดสินเกมในที่สุด อาร์เตต้า ยอมรับว่า “เครดิตต้องให้พวกเขา พวกเขาหลุดออกมาจากสถานการณ์ที่ปิดสนิทได้”
- ปาร์เตย์ หายไปไหน?: “โน ปาร์เตย์, โน ปาร์ตี้” คือคำกล่าวของ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ นักวิเคราะห์ Amazon Prime กองกลางชาวกาน่าได้แต่นั่งดูอยู่บนอัฒจันทร์ ขณะที่ เปแอสเช ทะลวงผ่านพื้นที่ที่เขาควรจะคอยคุมเชิงอยู่ หาก ปาร์เตย์ อยู่ในสนาม ด้วยตำแหน่งการยืนของเขาในฐานะกองกลางตัวรับ เดมเบเล่ อาจจะถูกตัดเกมตั้งแต่ต้น หรืออย่างน้อยก็จะมี เดแคลน ไรซ์ หรือ มาร์ติน โอเดการ์ด เข้ามาบีบพื้นที่ในแดนกลางได้เร็วกว่านี้ แต่เมื่อไม่มีใครอยู่ใกล้พอ เดมเบเล่ จึงสามารถลากบอลเข้าใกล้เขตโทษได้อย่างง่ายดาย
- ไรซ์ เคลื่อนที่ผิดพลาด: อาจจะดูใจร้ายไปหน่อยที่จะชี้โทษไปที่ ไรซ์ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของ อาร์เซน่อล ในคืนนั้น แต่สำหรับประตูที่เสียไป เขาต้องชดใช้ที่ต้องการจะเข้าไปช่วยเพื่อนร่วมทีม หลังจาก เดมเบเล่ จ่ายบอลออกไปให้ ควารัตสเคเลีย ทางฝั่งซ้าย และปีกรายนี้เลี้ยงเข้าหา เยอร์เรียน ทิมเบอร์ ไรซ์ ตามสัญชาตญาณได้เคลื่อนที่เข้าไปช่วยแบ็กขวาของตนเอง แต่โชคร้ายที่มันเปิดช่องว่างขนาดใหญ่ให้ เดมเบเล่ วิ่งเข้ามาหาตำแหน่งรับบอลคืนบริเวณหัวกะโหลก ซึ่งเป็นพื้นที่ “โซนปาร์เตย์” อีกเช่นกัน ทั้งหมดนี้นำไปสู่การที่ เดมเบเล่ มีพื้นที่และเวลาในการยิงประตู
- เมริโน่ คุมโซนผิดพลาด: มิเกล เมริโน่ ถอยกลับมาช่วยเกมรับในเขตโทษตนเอง แต่เขาเลือกที่จะเคลื่อนที่ไปยังบริเวณจุดโทษเพื่อป้องกันโซนนั้น หากเขาตามการวิ่งของ เดมเบเล่ และเข้าประกบติด โอกาสยิงอาจจะถูกปิดไปแล้ว แต่ไม่มีกองหลัง อาร์เซน่อล คนใดขยับตามมาประกบเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่ใช่ความผิดของ เมริโน่ คนเดียว มันต้องการใครสักคนในแผงหลังที่มองเห็นการวิ่งของ เดมเบเล่ และตัดสินใจเสี่ยงว่าอันตรายไม่ได้มาจากทางฝั่งซ้าย ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยากสำหรับแนวรับฝั่งซ้ายของ อาร์เตต้า ที่ต้องพะวงกับภัยคุกคามของ อัชราฟ ฮาคิมี่ อยู่แล้ว
ภาพซ้ำรอยที่เคยเกิด?
มีการชี้ให้เห็นถึงความคล้ายคลึงกันระหว่างประตูที่ เปแอสเช ยิงได้ที่ แอนฟิลด์ ในเกมกับ ลิเวอร์พูล และประตูที่พวกเขายิงใส่ อาร์เซน่อล หลังจากดึงคู่แข่งให้กดดันทางฝั่งซ้ายของแนวรับตนเอง การเคลื่อนที่อย่างชาญฉลาดของกองกลางก็สร้างพื้นที่ให้ เดมเบเล่ ได้บอลและพลิกตัวได้ นั่นเปิดโอกาสให้ทั้ง ควารัตสเคเลีย และ ฮาคิมี่ โจมตีทางริมเส้น แม้ครั้งนี้ เดมเบเล่ จะเลือกจ่ายไปทางซ้าย ต่างจากครั้งก่อนที่ เปแอสเช โจมตีทางขวา แต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็เหมือนกัน
บทสรุปคือ อาร์เซน่อล ต้องบุกไปชนะที่ ปารีส ให้ได้ เพื่อผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์สโมสร
PSG’s goals vs Liverpool & Arsenal were identical!
• Attract press to the left (Mendes x Pacho passing quality).
• Manipulate midfield w/ off-ball movement to create space.
• Dembélé arrives into space.
• Attack the flanks to stretch the backline. pic.twitter.com/64eI5Mjszr— Fathalli (@FathalliMo) April 29, 2025