อาหมัด ดิยัลโล่ สวมบทฮีโร่ ทำแฮตทริกในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกกลับมาชนะ เซาแธมป์ตัน ที่กำลังดิ้นรนหนีตกชั้นไปได้อย่างเหลือเชื่อ 3-1
ยูไนเต็ดดูเหมือนว่าจะต้องพ่ายแพ้ในบ้านให้กับทีมอันดับสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก หลังจากที่ มานูเอล อูการ์เต้ เปลี่ยนทางลูกสะกิดของ ไทเลอร์ ดิ๊บบลิ่ง ผ่านมือ อังเดร โอนาน่า เข้าไปเพียง 2 นาทีก่อนหมดครึ่งแรก
อย่างไรก็ตาม อาหมัด ผู้ซึ่งยิงตีเสมอในช่วงท้ายเกมในนัดที่ยูไนเต็ดเสมอกับลิเวอร์พูล 2-2 ในเกมลีกนัดล่าสุด มายิงตีเสมอในนาทีที่ 82 โดยยิงลอดขา อารอน แรมส์เดล เข้าไป
ปีกชาวไอวอรี่โคสต์มาทำประตูที่สองได้ในนาทีที่ 90 จากจังหวะวอลเลย์ลูกเปิดสุดสวยของ คริสเตียน อีริคเซ่น ผ่านมือแรมส์เดล ก่อนที่จะฉกฉวยความผิดพลาดของ เทย์เลอร์ ฮาร์วูด-เบลลิส ยิงเข้าไปง่าย ๆ ในอีก 4 นาทีต่อมา
ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ยูไนเต็ดขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 12 ของตาราง ในขณะที่เซาแธมป์ตัน ซึ่งยังคงมีชัยชนะเพียงนัดเดียวในฤดูกาล 2024/25 ยังคงจมอยู่ท้ายตาราง โดยมีคะแนนห่างจากโซนปลอดภัยถึง 10 คะแนน
เกมนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและดราม่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงท้ายเกม เซาแธมป์ตันเริ่มต้นได้ดีและขึ้นนำก่อนจากอูการ์เต้ แต่ยูไนเต็ดก็ไม่ยอมแพ้ และมาได้ประตูตีเสมอจากอาหมัด
จากนั้น อาหมัดก็มาสวมบทฮีโร่อย่างแท้จริง ด้วยการทำอีก 2 ประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ช่วยให้ทีมคว้า 3 แต้มสำคัญไปได้
ฟอร์มการเล่นของอาหมัดในเกมนี้ยอดเยี่ยมมาก เขาทั้งยิงประตูและสร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีม และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่ยอดเยี่ยมของเขา
ชัยชนะครั้งนี้มีความหมายอย่างยิ่งต่อยูไนเต็ด เพราะนอกจากจะเก็บ 3 แต้มแล้ว ยังเป็นการเรียกความมั่นใจกลับคืนมาหลังจากที่ฟอร์มไม่ค่อยดีนักในช่วงหลัง และทำให้พวกเขายังคงมีความหวังในการลุ้นพื้นที่ยุโรปต่อไป