ทีมของ ดาเนียล ฟาร์เค่ จบฤดูกาลด้วยผลงานในบ้านที่ดีที่สุดในลีก ชนะถึง 18 นัดที่ เอลแลนด์ โร้ด ยิงรวม 10 ประตูจากสองเกมลีกในยอร์คเชียร์ภายในสัปดาห์เดียว
บางเสียงในวงการฟุตบอลเชื่อว่าตอนนี้ ลีดส์ เหนือกว่า เบิร์นลีย์ อยู่หลายขุม และพวกเขาก็แสดงให้เห็นในเกมนี้อย่างชัดเจน ด้วยการถล่มทีมอันดับ 5 อย่าง บริสตอล ซิตี้ แบบไม่ไว้หน้า
เกมต่อไปที่ เอลแลนด์ โร้ด จะได้ต้อนรับคือการแข่งขันในระดับพรีเมียร์ลีก ซึ่งไม่ใช่เกมที่ปรานีคู่แข่งนัก แม้ พอล เมอร์สัน จะออกมาเตือนถึงความยาก แต่ตอนนี้ ลีดส์ กำลังทำลายสถิติต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นในยุคของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า และกำลังมุ่งหน้าคว้าแชมป์ลีกแชมเปี้ยนชิพสมัยที่สองในรอบ 5 ปี
นี่ถือเป็นการเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ในรอบ 35 ปีของสโมสร
แม้ก่อนเกมจะมีการคาดการณ์ว่าจะเป็นเกมที่สูสีจากคำพูดของ แซม พาร์กิน แต่กลายเป็นว่า บริสตอล ซิตี้ ไม่สามารถสู้ได้เลย โดย เลียม แมนนิ่ง ผู้จัดการทีมคู่แข่งก็ยอมรับว่า ทีมของเขาอ่อนเกินไปและไม่สามารถทำลายสถิติย่ำแย่ตลอด 46 ปีที่มีต่อ ลีดส์ ได้
แม้แฟนบอลบางคนอาจเสียดายที่ ลาร์จี้ รามาซานี่ ไม่ค่อยได้ลงเล่นในฤดูกาลนี้ แต่ฤดูกาลนี้ก็นับว่าเป็นปีแห่งความทรงจำของสาวก ยูงทอง อย่างแท้จริง โดยเฉพาะในเกมนี้ที่จัดขึ้นหลังจากเลื่อนชั้นได้ไม่นาน และนักเตะก็ไม่ทำให้ผิดหวังด้วยฟอร์มแชมป์อย่างแท้จริง สร้างบรรยากาศสุดเร้าใจในช่วงเป่านกหวีดหมดเวลา
เพลงฮิตของแฟนบอลอย่าง Marching on Together, Love Will Tear Us Apart, และ I Predict a Riot ถูกเปิดดังกระหึ่มในสนาม บรรยากาศเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอีกเลยนับตั้งแต่ปี 2010 ตอนที่พวกเขาเลื่อนชั้นจากลีกวัน
ตามข้อมูลจาก LUFCDATA นี่เป็นการเลื่อนชั้นครั้งที่ 9 ในประวัติศาสตร์ของ ลีดส์ โดยครั้งล่าสุดในปี 2020 เกิดขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งไม่สามารถจัดฉลองได้เต็มรูปแบบ ไม่มีขบวนพาเหรด ไม่มีแฟนบอลในสนาม
แม้ในปีนั้นแฟนบอลบางส่วนจะมารวมตัวกันที่ เอลแลนด์ โร้ด แต่หลายคนก็ไม่สามารถมาได้ ทำให้ปี 2025 เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่แฟน ๆ ได้ฉลองร่วมกับนักเตะในสนามอย่างสมบูรณ์ การที่แฟนบอลได้ร่วมเฉลิมฉลองในสนามกับทีมที่ตนรัก อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อยในสายตาบางคน แต่ความสำคัญนั้นยิ่งใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อครั้งก่อนพลาดโอกาสสำคัญไป
และปีนี้ก็ยิ่งพิเศษกว่าเดิม เพราะนอกจากได้เลื่อนชั้น ยังมีโอกาสคว้าแชมป์แบบเต็มภาคภูมิ ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1990 ซึ่งแฟนบอลรุ่นใหม่แทบไม่มีใครได้สัมผัสหรือจดจำ และพวกเขาทำได้อย่างสวยงาม ด้วยการเอาชนะหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดของลีก
อีธาน อัมปาดู ยืนยันถึงเป้าหมายในการคว้าแชมป์ และบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองที่เกิดขึ้น
ทั้ง ลีดส์ และ เบิร์นลีย์ ต่างต้องเตรียมตัวสำหรับภารกิจที่ท้าทายในพรีเมียร์ลีก แต่จากคำพูดล่าสุดของ ฟาร์เค่ เขาต้องการให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด กลับมาเป็นทีมที่ยืนหยัดในลีกสูงสุดอย่างแท้จริง และจะลงทุนอย่างเหมาะสมเพื่อเป้าหมายนั้น
ในระยะสั้น พวกเขากำลังโฟกัสที่การทำแต้มให้ครบ 100 คะแนน เพื่อทำลายสถิติของ เร้ดดิ้ง ที่เคยทำไว้เมื่อ 19 ปีก่อน โดย อัมปาดู ก็โพสต์ในโซเชียลมีเดีย รวมถึงให้สัมภาษณ์กับ Sky Sports เพื่อเน้นย้ำเป้าหมายนี้
อัมปาดู กล่าวอีกว่า “ตอนนี้เรากำลังชดเชยสิ่งที่เคยพลาดไป วันนี้คือวันที่พิเศษสำหรับการฉลองกับแฟนบอล สโมสรแห่งนี้ยิ่งใหญ่มาก และมันเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมนี้
“เรายังเหลืออีกหนึ่งก้าวที่ต้องก้าวข้าม และเรามั่นใจว่าเราทำได้ มันอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว”
การคว้าแชมป์จะเป็นการปิดฉากฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริง โดยมีเพียง พลีมัธ อาร์ไกล์ ที่ขวางทางอยู่เท่านั้น
การแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความเด็ดขาดของ ลีดส์ ในช่วงท้ายฤดูกาลด้วยการชนะรวด 5 นัดติดต่อกัน ถือเป็นผลงานที่ต้องยกย่องอย่างไม่มีข้อกังขา