Ruud van Nistelrooy

รุด ฟาน นิสเตลรอย เดือดจัด! จวกแข้ง เลสเตอร์ ซิตี้ หลังแพ้ วูล์ฟ แบบหมดสภาพ

เลสเตอร์ ซิตี้ ยังคงฟอร์มย่ำแย่ต่อเนื่อง หลังบุกพ่าย วูล์ฟแฮมป์ตัน 0-3 ที่สนาม โมลินิวซ์ เมื่อวันเสาร์ โดยที่ เจมี วาร์ดี ยิงจุดโทษพลาด เพิ่มความผิดหวังในฤดูกาลพรีเมียร์ลีกที่เลวร้ายของทีม

รุด ฟาน นิสเตลรอย ออกโรงจวกนักเตะของตัวเองอย่างดุเดือด หลังจากเห็นลูกทีมโดน วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่กำลังอยู่ในฟอร์มร้อนแรงไล่ถล่มจนหมดสภาพ การตกชั้นอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ก่อนดูเหมือนจะยังไม่ถึงที่สุด เมื่อพวกเขามาแพ้แบบยับเยินอีกครั้ง และ เจมี วาร์ดี ยังมาพลาดโอกาสสำคัญจากลูกจุดโทษอีกด้วย

เกมนี้ มาธิอัส คุนญา ยิงจ่อๆ จากการเปิดเรียดของ รายาน ไอต์-นูรี ส่งให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน ขึ้นนำ และหลังจากนั้นก็ทำสองแอสซิสต์ให้กับ ยอร์เก้น สตรานด์ ลาร์เซน และ โรดริโก โกเมส ซัดเพิ่มอีกคนละประตู โดยการยิงของ คุนญา ในนาทีที่ 33 ทำให้สถิติของ เลสเตอร์ เลวร้ายลงไปอีก เมื่อพวกเขาเสียประตูแรกในเกมถึง 29 จาก 34 นัดในฤดูกาลนี้ ถือเป็นสถิติที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก

สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก เมื่อ วาร์ดี ที่ประกาศแล้วว่าจะอำลาทีมหลังจบฤดูกาล ยิงจุดโทษไม่ผ่านมือ โชเซ ซา ทั้งที่เป็นคนเรียกจุดโทษมาได้เอง และตอนนี้ เลสเตอร์ แพ้ไปแล้ว 24 นัดในฤดูกาลนี้ โดยเหลืออีกเพียงสี่เกมให้พวกเขากอบกู้ศักดิ์ศรีที่เหลืออยู่


นับตั้งแต่เข้ามาคุมทีมเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน ฟาน นิสเตลรอย พาทีมชนะได้เพียง 3 จาก 23 นัดเท่านั้น และเจ้าตัวยอมรับในสัปดาห์นี้ว่าไม่แน่ใจว่าจะได้โอกาสนำทีมลุยศึกแชมเปียนชิพในฤดูกาลหน้าหรือไม่ เกมนี้เขาตัดสินใจเปลี่ยนตัวรวดเดียวสามคนตั้งแต่พักครึ่ง แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนชะตาของทีมได้

“ถ้ามองจากฟอร์มวันนี้ มันไม่ดีพอ” ฟาน นิสเตลรอย ให้สัมภาษณ์กับรายการ Match of the Day “ผมไม่พูดถึงเรื่องแท็กติกหรือเทคนิค แต่พูดถึงความเข้มข้น ความมุ่งมั่นในจังหวะปะทะ เราเสียบอลง่ายเกินไปหลายครั้งในครึ่งแรก ส่วนครึ่งหลัง แม้จะโดนโต้กลับเสียสองลูก แต่ภาพรวมก็ยังดีขึ้นเล็กน้อย ทว่ายังไงวันนี้มันก็ไม่พอ”

เขาเสริมอีกว่า: “ช่วงพักครึ่งผมต้องบอกกับลูกทีมอย่างตรงไปตรงมาว่าสิ่งที่พวกเขาแสดงออกมาไม่สามารถยอมรับได้ เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องของพรสวรรค์ แต่มันคือเรื่องของความมุ่งมั่น ความกระหาย ทั้งการไล่บีบและความดุดันในจังหวะปะทะ รวมถึงการเล่นที่ไม่เสียบอลง่ายจนเปิดช่องให้โดนโต้กลับ”


“เราพยายามแก้ไขในครึ่งหลัง เรามีโอกาสจากจุดโทษของ เจมี ซึ่งน่าเสียดายมาก ผมอยากให้เขายิงเข้าเพื่อพาเรากลับสู่เกม และเพื่อเขาเองด้วย”

“จังหวะนั้นมันสรุปภาพรวมของเกมนี้ได้เลย เราเคยมีฟอร์มดีในเกมกับ ไบรท์ตัน และ ลิเวอร์พูล แต่วันนี้เราไม่สามารถรักษามาตรฐานนั้นได้ มันเป็นเรื่องของความสม่ำเสมอ และแน่นอนว่าต้องรักษาแรงจูงใจและโฟกัสของทีมให้ได้ตลอด”

“เรายังมีอะไรให้สู้ อย่างเกมสุดท้ายของ เจมี วาร์ดี การสนับสนุนกัปตันทีมควรเป็นแรงบันดาลใจเพียงพอแล้วที่จะสู้ด้วยทุกอย่างที่มี เรามองไปยัง 17 ทีมที่อยู่เหนือเราในตาราง และยอมรับตรงๆ ว่าเรายังไม่อยู่ในระดับนั้น นั่นคือความจริงที่ต้องยอมรับและเดินหน้าต่อไป”