บาร์เซโลน่า สร้างประวัติศาสตร์ ยิง 4 ประตูใส่ เรอัล มาดริด ในการแข่งขัน 2 นัดติดต่อกัน เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เอล กลาซิโก้ พร้อมคว้าแชมป์ซูเปร์โกปา เด เอสปันญ่า ด้วยการถล่มคู่ปรับตลอดกาลไปอย่างขาดลอย 5-2
มาดริดขึ้นนำก่อนจากประตูสุดสวยของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ในนาทีที่ 5 แข้งชาวฝรั่งเศสลบเลือนความทรงจำจากการล้ำหน้าถึง 8 ครั้ง ในความพ่ายแพ้ต่อบาร์ซ่า 4-0 เมื่อเดือนตุลาคม ก่อนที่ ลามีน ยามาล จะตีเสมอด้วยความสามารถเฉพาะตัวอันยอดเยี่ยมในนาทีที่ 22
จากนั้นทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ก็มาเสียท่า เมื่อ เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า ทำเสียจุดโทษ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ก็สังหารเข้าไปอย่างเยือกเย็นในนาทีที่ 36 อีก 3 นาทีต่อมา ราฟินญ่า สอดขึ้นมาโหม่งลูกครอสสุดแม่นยำของ ฌูลส์ กุนเด้ เข้าประตูไป และ อเลฆานโดร บัลเด้ ก็มาทำประตูที่ 4 ในนาทีที่ 10 (ใช่ นาทีที่ 10) ของช่วงทดเวลาบาดเจ็บในครึ่งแรกที่วุ่นวาย
สถานการณ์ของมาดริดไม่ได้ดีขึ้นหลังพักครึ่ง ราฟินญ่า โชว์ลีลาหลอกล่อก่อนจะยิงประตูที่สองของตัวเองในนาทีที่ 48 จากนั้นก็มีดราม่าเพิ่มเติม เมื่อผู้รักษาประตู วอยเซียค เชสนี่ โดนใบแดงในนาทีที่ 56 จากการทำฟาวล์เอ็มบัปเป้นอกเขตโทษ โดย โรดรีโก้ ยิงฟรีคิกเข้าไปหลังจากรออยู่พักใหญ่ แต่ค่ำคืนนี้เป็นของบาร์ซ่าอย่างแท้จริง
ชัยชนะครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความเหนือชั้นของบาร์เซโลน่า และเป็นการล้างแค้นจากความพ่ายแพ้ในลีกเมื่อเดือนตุลาคม นอกจากนี้ ยังเป็นการคว้าแชมป์ซูเปร์โกปา สมัยที่ 14 ของพวกเขาอีกด้วย
— FC Barcelona (@FCBarcelona) January 12, 2025