นูโน่ เอสปิริโต ซานโต กล่าวว่าตัวเขานั่งอยู่ในที่นั่งข้างสนามระหว่างการยิงจุดโทษที่น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ชนะไบรท์ตัน เพราะเขารู้สึก “เครียดเกินไป” และมันเป็นหนึ่งใน “ความเชื่อโชคลางของฟุตบอล” ของเขา
มัดส์ เซลส์ กลายเป็นฮีโร่ของฟอเรสต์ โดยปฏิเสธทั้งแจ็ค ฮินเชลวูดและดีเอโก้ โกเมซจากจุดโทษหลังจาก 120 นาทีที่ไม่มีการทำประตูที่สนามอาเม็กซ์
ชัยชนะ 4-3 ในการยิงจุดโทษทำให้ทีมเยือนได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศของการแข่งขันเป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปี และมีฉากที่เต็มไปด้วยความยินดีในฝั่งทีมเยือนเมื่อการยิงจุดโทษของไรอัน เยตส์เข้าไปในตาข่าย
ไบรอัน คลัฟ เป็นผู้จัดการคนสุดท้ายที่พาฟอเรสต์เข้าสู่สี่ทีมสุดท้ายเมื่อปี 1991 ซึ่งทีมแพ้ให้กับท็อตแน่มในรอบชิงชนะเลิศที่เวมบลีย์
ฟอเรสต์และคริสตัล พาเลซ – ซึ่งชนะฟูแล่มในช่วงเช้า – จะทราบคู่แข่งในรอบรองชนะเลิศหลังจากเกมระหว่างแอสตัน วิลล่ากับเพรสตัน นอร์ธ เอนด์ในวันอาทิตย์
“มันหมายความมาก มันเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับเราในฐานะสโมสร” เอสปิริโต ซานโตกล่าวกับนักข่าวในงานแถลงข่าวหลังเกม
“มันเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับเราในเส้นทางของเราที่จะได้มีช่วงเวลาแบบนี้เพื่อเพลิดเพลินและเล่นฟุตบอลที่เวมบลีย์ในการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่อย่างเอฟเอ คัพ เรามีความสุขมาก”
เอสปิริโต ซานโตกล่าวว่าจิตวิญญาณและความสามัคคีของฟอเรสต์คือ “รากฐาน” สำหรับทุกสิ่งที่ดีที่พวกเขาทำมาตั้งแต่เขารับตำแหน่งเป็นผู้จัดการทีมในเดือนธันวาคม 2023
“ตั้งแต่ผมมาที่นี่ สิ่งแรกที่ผมสังเกตเห็นคือบรรยากาศที่ดีและความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่น” เขากล่าวเสริม
“เราแค่พยายามเสริมสร้างพวกเขาตามเวลา แต่การทำให้พวกเขาอยู่ร่วมกัน เคารพและช่วยเหลือกันในทุกช่วงเวลา ทั้งในและนอกสนาม มันใหญ่มาก ความสัมพันธ์นั้นคือรากฐานของทุกสิ่ง”
“เราจะไม่เปลี่ยนวิธีการของเรา ตอนนี้เราต้องฟื้นฟูและเตรียมตัวสำหรับวันอังคาร [กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด] มันคือวันต่อวัน”