เป็นครั้งที่สองในรอบสี่ฤดูกาลที่ เซลติก มีโอกาสปิดจ็อบคว้าแชมป์ลีกที่สนาม แทนนาไดซ์ ปาร์ก หากเก็บได้เพียงแค่หนึ่งแต้มจากเกมนี้ พวกเขาก็จะการันตีแชมป์ลีกสก็อตแลนด์ 4 สมัยติดต่อกัน ขณะเดียวกันเจ้าถิ่นอย่าง
ดันดี ยูไนเต็ด ที่กำลังลุ้นพื้นที่อันดับ 3 แบบเต็มตัว ก็ไม่มีทางยอมง่าย ๆ แน่นอน แล้วลูกทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส จะวางแผนสู้ศึกอย่างไร? มาดูการคาดการณ์ 11 ตัวจริงจาก Last Word on Football กัน
ฟอร์มล่าสุดของ เซลติก
ในเกมที่ไล่ถล่ม เซนต์ จอห์นสโตน ไป 5-0 ผู้รักษาประตูตัวจริงคือ วิลยามี ซินซาโล นายด่านชาวฟินแลนด์ที่แทบไม่ได้ออกแรงอะไรมากนัก
แนวรับมี อลิสแตร์ จอห์นสตัน, คาเมรอน คาร์เตอร์-วิคเกอร์ส, เลียม สเคลส์ และ เกร็ก เทย์เลอร์ ที่ลงสนามเป็นตัวจริง
โดยเฉพาะกับ เลียม สเคลส์ ที่ก่อนหน้านี้เคยถูกวิจารณ์อย่างหนักจากฟอร์มที่ ไอบร็อกซ์ เมื่อเดือนมกราคม แต่ล่าสุดเขากลับมาได้รับโอกาสต่อเนื่อง 2 นัดติด แม้บทบาทเกมรับจะไม่มากนัก แต่เขาแสดงให้เห็นถึงความแม่นยำในการจ่ายบอล โดยลูกจ่ายทะลุแนวรับที่ทำให้ เรียว ฮาตาเตะ หลุดเข้าไปยิงประตูที่สามถือว่าเด็ดขาด แม้จะไม่มีชื่อแอสซิสต์ก็ตาม
แดนกลางประกอบด้วย คัลลัม แม็คเกรเกอร์, เรียว ฮาตาเตะ และ อาร์เน อิงเกลส์
แม็คเกรเกอร์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมดังกล่าว โดยยิงประตูที่ 10 ของฤดูกาลได้สำเร็จ แม้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขาไม่ได้รับบทบาทมิดฟิลด์ตัวรุกเต็มตัว แต่ในฤดูกาลนี้เขาแสดงให้เห็นว่าความสามารถในการเติมเกมรุกยังคงเฉียบคม เขามีบทบาททั้งรับและรุก เชื่อมเกมจากแดนลึก พร้อมกับเคลื่อนที่หาพื้นที่ในจังหวะรุกอย่างชาญฉลาด
แนวรุกประกอบด้วย เจมส์ ฟอเรสต์, อดัม ไอดาห์ และ ไดเซน มาเอดะ
แม้อายุจะใกล้แตะหลัก 34 ปี แต่ ฟอเรสต์ ยังพิสูจน์ให้เห็นว่าเขายังมีคุณค่าในทีม เซลติก เขาใช้ความหลากหลายในเกมรุก ทั้งลากไปสุดเส้นเพื่อเปิดบอล หรือจะตัดเข้าด้านในเพื่อสร้างโอกาสยิงเองก็ทำได้อย่างดีเยี่ยม การครองบอลและตัดสินใจของเขายังอยู่ในระดับสูง พร้อมเติมสมดุลให้แนวรุกของทีมได้อย่างลงตัว
ฟอร์มโดยรวม และแท็คติกของ เซลติก ช่วงหลัง
เกมรอบรองชนะเลิศ สก็อตติช คัพ กับ เซนต์ จอห์นสโตน ถือเป็นอีกหนึ่งนัดที่พวกเขาแสดงความกระหายในการล่าแชมป์อย่างแท้จริง บรรยากาศดี แดดสดใส แต่ เซนต์ จอห์นสโตน กลับกลายเป็นเหยื่อของการถล่มจากทีมจ่าฝูง
ระบบการเล่นที่เจอกับทีมที่ยืนประกบตัวต่อตัว เซลติก คุมเกมได้ตั้งแต่ต้น ฮาตาเตะ กับ แม็คเกรเกอร์ หมุนเวียนตำแหน่งกันได้อย่างลงตัว ทำให้สามารถเจาะเข้าไปในพื้นที่อันตรายได้บ่อย ๆ และทันทีที่ประตูแรกเกิดขึ้น เกมก็แทบจะขาดทันที
แม้ในช่วงทดเวลา เซลติก นำอยู่ถึง 3-0 แต่ยังคงไล่เพรสไม่หยุด จนสามารถแย่งบอลจากการเปิดลูกตั้งเตะของคู่แข่ง และจบด้วยประตูของ ไดเซน มาเอดะ
สภาพทีมก่อนเกม
แคสเปอร์ ชไมเคิล และ เดน เมอร์เรย์ ยังคงหมดสิทธิ์ลงสนาม ขณะที่ หยาง ยังไม่แน่ว่าจะมีชื่อในทีมชุดนี้หรือไม่