ลิเวอร์พูล

หงส์แดงเบียดเฉือน วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-1 นำจ่าฝูงยาว !!

ลิเวอร์พูล ยังคงรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกได้อย่างเหนียวแน่น หลังเปิดรัง แอนฟิลด์ เฉือนชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน ไปแบบหวุดหวิด 2-1 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

จากประตูของ หลุยส์ ดิอาซ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ส่งผลให้พวกเขาทิ้งห่างอันดับสอง อาร์เซนอล ไปเป็น 7 คะแนน

ออกนำก่อน 2-0 แต่เจองานยากช่วงท้าย

ทีมของ อาร์เน่ สล็อต ดูเหมือนจะควบคุมเกมได้อยู่หมัด หลังออกนำตั้งแต่นาทีที่ 15 จากจังหวะที่ หลุยส์ ดิอาซ ซ้ำบอลเข้าประตู ก่อนที่เขาจะเรียกจุดโทษให้ทีมได้ในช่วงท้ายครึ่งแรก และเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ยิงเข้าไปอย่างง่ายดาย ซึ่งถือเป็นประตูที่ 23 ของเขาในลีกฤดูกาลนี้

อย่างไรก็ตาม วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้น ไม่ได้ยอมแพ้ง่ายๆ พวกเขากลับมาสร้างความกดดันให้กับเจ้าบ้าน และสามารถตีไข่แตกในนาทีที่ 67 จากจังหวะยิงสุดสวยของ มาเธอุส คุนญ่า ที่ปั่นบอลผ่านมือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ เข้าไปอย่างเฉียบขาด

แม้ช่วงท้ายเกมจะเต็มไปด้วยความตึงเครียด แต่ ลิเวอร์พูล ก็สามารถประคองตัวจนคว้าสามแต้มสำคัญเอาไว้ได้ ทำให้พวกเขามี 60 คะแนนจาก 25 นัด ขณะที่ อาร์เซนอล ตามมาเป็นอันดับสองที่ 53 คะแนน โดยทั้งสองทีมเหลือการแข่งขันอีก 13 นัด


“โรเบิร์ตสันรับสุดกดดัน แต่ชี้เป็นชัยชนะที่ล้ำค่า”

หลังจบเกม แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายของหงส์แดง ยอมรับว่าเกมนี้ไม่ง่ายเลย โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังที่ทีมต้องเจอแรงกดดันอย่างหนัก

“เราต้องกัดฟันสู้จนถึงที่สุด ครึ่งหลังมันเป็นเกมที่หนักมาก…ทุกคนเริ่มกังวลกันหมด แต่สุดท้ายเราก็เก็บชัยชนะมาได้ ซึ่งเป็นสามแต้มที่สำคัญมากสำหรับเรา”

ด้าน วูล์ฟแฮมป์ตัน ยังคงรั้งอันดับที่ 17 ของตาราง มี 19 คะแนน อยู่เหนือโซนตกชั้นเพียง 2 แต้ม


“ลิเวอร์พูลคืนฟอร์ม หลังสัปดาห์แห่งความผิดหวัง”

แม้ฟอร์มการเล่นในเกมนี้จะไม่ได้โดดเด่นมากนัก โดยเฉพาะครึ่งหลังที่พวกเขาดูเป๋ไปเล็กน้อย แต่ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นความโล่งใจของ ลิเวอร์พูล หลังจากที่พวกเขาพลาดท่าตกรอบ เอฟเอ คัพ ด้วยการแพ้ให้กับ พลีมัธ ทีมจากลีกแชมเปียนชิพ และยังถูก เอฟเวอร์ตัน ตีเสมอในช่วงทดเจ็บในเกมลีกนัดล่าสุด

เวอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันทีม กล่าวถึงเกมนี้ว่า

“เราอยากครองเกมให้ได้ตลอด 90 นาที แต่พรีเมียร์ลีกไม่มีเกมไหนง่าย วูล์ฟแฮมป์ตัน ก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาอันตรายแค่ไหน เราทำผิดพลาดไปบ้าง แต่สิ่งสำคัญคือเราสู้จนวินาทีสุดท้ายและได้สามแต้ม”


“วูล์ฟแฮมป์ตันสู้ไม่ถอย เกือบแบ่งแต้มสำเร็จ”

แม้สุดท้ายจะต้องพ่ายแพ้ แต่ วูล์ฟแฮมป์ตัน ก็แสดงให้เห็นถึงหัวใจนักสู้ โดยเฉพาะ มาเธอุส คุนญ่า ที่เป็นตัวอันตรายของทีมตลอดทั้งเกม เขามีโอกาสยิงฟรีคิกที่เฉียดคานไปนิดเดียว ก่อนจะซัดไกลสุดสวยเป็นประตูให้ทีมในครึ่งหลัง

นอกจากนี้ มาร์แชล มูเนตซี มิดฟิลด์ตัวใหม่ของทีม ยังมีโอกาสทองที่จะตีเสมอ แต่จังหวะยิงของเขาถูก อลีสซง เบ็คเกอร์ เซฟได้อย่างเหลือเชื่อ

“พวกเราทำให้พวกเขาเล่นลำบากขึ้นมากในครึ่งหลัง ซึ่งนี่คือสิ่งที่โค้ชต้องการให้เราทำ และเราต้องรักษาสิ่งนี้ไว้” มาร์แชล มูเนตซี กล่าว


“กุนซือวูล์ฟแฮมป์ตันกระตุ้นลูกทีมต้องเล่นให้ดีตั้งแต่เริ่มเกม”

ด้าน วิตอร์ เปเรย์ร่า กุนซือของทีมเยือน แสดงความเสียดายที่ลูกทีมใช้เวลานานเกินไปกว่าจะเร่งเครื่องสู้ ลิเวอร์พูล ได้อย่างเต็มที่

“ถ้าเราเล่นได้เหมือนครึ่งหลังตั้งแต่เริ่มเกม มันอาจจะเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป ผมอยากเห็นทีมของผมมีความกล้าหาญและเล่นด้วยตัวตนที่ชัดเจนตั้งแต่นาทีแรก”

“แม้แต่นักเตะที่เก่งที่สุดในโลก ถ้าคุณกดดันพวกเขา พวกเขาก็ทำพลาดได้” วิตอร์ เปเรย์ร่า กล่าวทิ้งท้าย


“บทสรุป – หงส์แดงยังคงเดินหน้าสู่แชมป์”

แม้จะเจองานหนักกว่าที่คาด แต่ ลิเวอร์พูล ก็ยังคงเดินหน้าไล่ล่าถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป ขณะที่ วูล์ฟแฮมป์ตัน ต้องกลับไปลุ้นหนีตกชั้นในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล

สุดท้ายแล้ว ลิเวอร์พูล จะสามารถรักษาความได้เปรียบและคว้าแชมป์ลีกได้หรือไม่? หรือจะมีทีมใดที่สามารถแซงขึ้นมาเบียดแย่งถ้วยได้ในช่วงท้ายฤดูกาล? คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด!