ศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชียกำลังดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ โดย ออสเตรเลีย เตรียมเปิดบ้านต้อนรับ อินโดนีเซีย ที่ ซิดนีย์ ในคืนวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งเป็นแมตช์สำคัญสำหรับทั้งสองทีม
เจ้าถิ่นกำลังรั้งอันดับสองของกลุ่ม ซึ่งเป็นโควต้าอัตโนมัติสุดท้ายสำหรับการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป แต่พวกเขามีแต้มนำหน้าทีมเยือนและอีกสามทีมที่เหลือในกลุ่มเพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น
ออสเตรเลีย เดินหน้าลุยเพื่อคว้าตั๋วสู่ฟุตบอลโลก 2026
ออสเตรเลีย ลงเล่นนัดแรกของปี 2025 โดยหวังจะตอกย้ำโอกาสในการผ่านเข้าสู่ศึก ฟุตบอลโลก 2026 ซึ่งจะเป็นการเข้ารอบสุดท้ายเป็นครั้งที่หกติดต่อกันของพวกเขาบนเวทีระดับโลก
หลังจากทะลุเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในปี 2022 ทีม “ซอคเกอร์รูส์” ก็เริ่มต้นเส้นทางรอบคัดเลือกครั้งใหม่ตั้งแต่รอบสอง และทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการเก็บชัยชนะ 6 นัดรวดในกลุ่ม I ยิงไป 22 ประตูโดยไม่เสียเลยแม้แต่ลูกเดียว
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันในรอบสามกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด โดยพวกเขาเปิดหัวด้วยความพ่ายแพ้ต่อ บาห์เรน และเสมอกับ อินโดนีเซีย ในนัดถัดมา ซึ่งเป็นช่วงที่ โทนี่ ป็อปโปวิช เข้ามารับตำแหน่งกุนซือแทน เกรแฮม อาร์โนลด์ ที่คุมทีมมายาวนาน
หลังจากนั้น ออสเตรเลีย ไม่แพ้ใครตลอด 4 นัดหลังสุด แม้ว่าจะเก็บชัยชนะได้เพียงเกมเดียวที่พบกับ จีน ก่อนที่จะเสมอกับ ญี่ปุ่น, ซาอุดีอาระเบีย และ บาห์เรน โดยเฉพาะในเกมล่าสุดที่ คูซินี่ เยนกี้ ยิงตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ช่วยให้พวกเขาแบ่งแต้มจาก บาห์เรน ได้สำเร็จ
ปัจจุบัน ออสเตรเลีย รั้งอันดับสองของกลุ่ม C โดยมีแต้มนำหน้า อินโดนีเซีย, ซาอุดีอาระเบีย, บาห์เรน และ จีน เพียงคะแนนเดียวเท่านั้น ทำให้พวกเขาจำเป็นต้องเก็บสามแต้มให้ได้ในนัดนี้เพื่อรักษาอันดับของตัวเอง
อินโดนีเซีย หวังสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเป็นครั้งแรก
ด้านทีมเยือน อินโดนีเซีย เดินทางสู่ ซิดนีย์ ด้วยความหวังที่จะขยับขึ้นสู่อันดับสองของกลุ่มและคว้าสิทธิ์ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป
ทัพ “เมราห์ ปูติห์” เริ่มต้นรอบคัดเลือกตั้งแต่รอบแรก ด้วยการถล่ม บรูไน ด้วยสกอร์รวม 12-0 ก่อนจะผ่านเข้าสู่รอบสามด้วยการจบอันดับสองของกลุ่ม โดยมี 10 แต้มจาก 6 นัด
แม้ว่าจะเสมอ 3 นัดติด รวมถึงเกมที่แบ่งแต้มกับ ออสเตรเลีย แต่พวกเขาก็กลับมาอยู่ในเส้นทางลุ้นเข้ารอบอีกครั้ง หลังจากเอาชนะ ซาอุดีอาระเบีย 2-0 ในเดือนพฤศจิกายน จากสองประตูของ มาร์เซลิโน เฟอร์ดินาน
ล่าสุด พวกเขาต้องผิดหวังจากการแข่งขัน อาเซียน แชมเปี้ยนชิพ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และตอนนี้กำลังอยู่ภายใต้การคุมทีมของ แพทริค ไคลเวิร์ต ซึ่งจะนำทัพลงสนามเป็นครั้งแรกในปี 2025 ด้วยความหวังที่จะทะยานขึ้นสู่อันดับสองของกลุ่ม
สภาพความพร้อมของทั้งสองทีม
ออสเตรเลีย จะขาดผู้เล่นตัวหลักหลายรายในเกมนี้ โดย แฮร์รี่ ซูตทาร์ แนวรับตัวเก่ง รวมถึงสองกองกลางอย่าง มัสซิโม่ ลูออนโก และ ไรลีย์ แม็คกรี ต่างได้รับบาดเจ็บและไม่สามารถลงสนามได้
คูซินี่ เยนกี้ น่าจะยังคงยืนเป็นกองหน้าตัวหลัก หลังจากทำไปแล้ว 6 ประตูจาก 11 นัดในนามทีมชาติ โดยเกมล่าสุดเขาซัดสองประตูช่วยทีมเสมอ บาห์เรน ขณะที่ มาร์ติน บอยล์ อาจได้ลงเล่นร่วมกับ เคร็ก กู๊ดวิน ในแนวรุก
ส่วนแดนกลาง แอนโธนี่ คาเซเรส และ ไอเดน โอนีลล์ จะต้องแย่งตำแหน่งเพื่อเล่นคู่กับ แจ็คสัน เออร์ไวน์ ขณะที่แนวรับมีโอกาสสูงที่ ไค โรลส์, มิลอส เดเกเน็ค และ คริสเตียน เบอร์เกส จาก อิปสวิช ทาวน์ จะลงสนามพร้อมกัน เนื่องจาก แฮร์รี่ ซูตทาร์ และ เฮย์เดน แมทธิวส์ ไม่พร้อมใช้งาน
ด้าน อินโดนีเซีย จะไม่มี เอกี้ เมาลานา กองกลางตัวเก่งที่บาดเจ็บ รวมถึงสองแนวรับอย่าง อัสนาวี มังกัวลาม และ เอลคาน แบ็กก็อตต์ ที่ไม่มีชื่อในทีมชุดนี้
มาร์เซลิโน เฟอร์ดินาน น่าจะได้ลงทำเกมรุกอีกครั้ง หลังจากทำไปแล้ว 5 ประตูในระดับทีมชาติ รวมถึงสองลูกที่ช่วยให้ทีมเอาชนะ ซาอุดีอาระเบีย ในนัดล่าสุดของรอบคัดเลือก
เขาจะคอยสนับสนุนคู่กองหน้า ราฟาเอล สตรุยค์ และ รอมฎอน ซานันตา ขณะที่ โจอี้ เปลูเปสซี่ กองกลางวัย 31 ปี ที่เพิ่งถูกเรียกติดทีมชาติเป็นครั้งแรก อาจได้รับโอกาสประเดิมสนาม
คาดการณ์ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ออสเตรเลีย (3-4-3):
ไรอัน; โรลส์, เดเกเน็ค, เบอร์เกส; มิลเลอร์, โอนีลล์, เออร์ไวน์, เบฮิช; กู๊ดวิน, เยนกี้, บอยล์
อินโดนีเซีย (3-4-1-2):
ปาเอส; อิดเซส, ฮึบนอร์, ริโดห์; วอลช์, เฮย์, เปลูเปสซี่, อาร์ฮาน; เฟอร์ดินาน; สตรุยค์, ซานันตา
คาดการณ์ผลการแข่งขัน
นัดแรกที่ทั้งสองทีมพบกันเมื่อปีที่แล้วจบลงด้วยผลเสมอ และปัจจุบันพวกเขามีแต้มต่างกันเพียง 1 คะแนนในรอบคัดเลือกรอบสาม อย่างไรก็ตาม เรามองว่า ออสเตรเลีย จะคว้าชัยชนะได้ในเกมนี้ ด้วยความได้เปรียบในการเล่นในบ้านและขุมกำลังที่เหนือกว่า
ออสเตรเลีย 2-0 อินโดนีเซีย